บลจ.วรรณ โชว์จ่ายปันผล 2 กองทุน
บลจ.วรรณ โชว์จ่ายปันผล 2 กองทุน กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 8 มิ.ย.60
นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนวรรณ จำกัด หรือ บลจ.วรรณ เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น จากแรงหนุนของกระแสเงินลงทุนที่ไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชียเหนือและตลาดหุ้นกลุ่ม Tips รวมถึงประเทศไทย จากค่าเงินในภูมิภาครวมถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง
โดยค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 34.00-34.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ จากการขยายตัวของ GDP ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นจากการส่งออกที่ขยายตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
รวมถึงการใช้จ่ายภาครัฐที่ช่วยหนุนให้มีการอุปโภคบริโภคในประเทศเพิ่มขึ้น และผลจากภาคการท่องเที่ยวที่ยังคงฟื้นตัว ซึ่งบริษัทประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในสัปดาห์นี้ที่ระดับ 1,560 -1,590 จุด
“บริษัทยังมีมุมมองที่ดีต่อตลาดหุ้นไทยในระยะถัดไป โดยยังมีโอกาสการปรับตัวขึ้น Downside Risk มีจำกัด จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวได้ เพียงแต่กำลังรอแรงหนุนจากโครงการภาครัฐ ทั้งนี้ เกณฑ์การควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ออกมาเป็นการผ่อนคลายและเพิ่มความสะดวกในการประกอบธุรกิจของภาคเอกชน
โดยยกเลิกกฎเกณฑ์ที่ไม่จำเป็นออก ซึ่งช่วยลดต้นทุนของภาคเอกชนลง โดยประเมินว่าไม่มีผลกระทบต่อกระแสเงินทุนในตลาดทุน โดยค่าเงินเริ่มกลับมาแข็งค่าหลังเกิดการขายค่าบาทเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี สัปดาห์นี้ยังคงต้องติดตาม ปัจจัยต่างประเทศ ได้แก่ ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป การเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ในวันที่ 8 มิ.ย. 60 และประเด็นทางการเมืองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กับรัสเซีย” นายพจน์ กล่าว
ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่ต้นปีให้ผลตอบแทนประมาณ 1% ซึ่งสำหรับผลการดำเนินงานของกองทุนหุ้นของบลจ.วรรณ ยังสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาด
ทั้งนี้ คณะกรรมการมีมติประกาศจ่ายปันผล 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดวรรณ อัลตร้า อินคัม ฟันด์ (ONE-ULTRA) จากกำไรสุทธิของผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ก.พ. 60 – 30 มิ.ย. 60 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.05 บาท
โดยกำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยเพื่อรับเงินปันผลในวันที่ 6 มิ.ย. 60 กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 15 มิ.ย. 60 และ กองทุน วรรณ อีควิคตี้ฟันด์ (ONE-EC14) จากกำไรสุทธิของผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 พ.ย.59 – 30 เม.ย. 60 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.9526 บาท โดยได้กำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยเพื่อรับเงินปันผลไปเมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจะมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 8 มิ.ย.60
ในระยะถัดจากนี้ คาดว่าตลาดยังคงมีปรับตัวในลักษณะ Side-way เนื่องจากขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ โดยปัจจัยต่างประเทศที่อาจเข้ามากดดันตลาด ได้แก่ การเลือกตั้งอังกฤษ การสอบสวนนายโดนัล ทรัมป์จาก FBI และ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยฯของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ซึ่งการส่งผลกระทบต่อกระแสเงินทุนในระยะสั้น
ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศ ยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งนี้โดยรวมมองว่าหากดัชนีมีการปรับตัวลดลงถือเป็นโอกาสทยอยสะสม