บลจ.ไทยพาณิชย์ส่งกองทริกเกอร์หุ้นไทยตั้งเป้าผลตอบแทน 3% 2 ครั้งใน 7 เดือน
นายสมิทธ์ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยได้ปรับตัวลดลงมาอยู่ในช่วงที่น่าสนใจลงทุน โดยราคาหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมหลายกลุ่มปรับตัวลดลง ในขณะที่ความสามารถในการทำกำไรและปัจจัยพื้นฐานมิได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก
นายสมิทธ์ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยได้ปรับตัวลดลงมาอยู่ในช่วงที่น่าสนใจลงทุน โดยราคาหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมหลายกลุ่มปรับตัวลดลง ในขณะที่ความสามารถในการทำกำไรและปัจจัยพื้นฐานมิได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก
บริษัทฯ จึงได้เปิดจำหน่ายกองทุนทริกเกอร์เพิ่มเติมอีก 1 กองทุน คือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ทริกเกอร์ 3% พลัส 3% ฟันด์ อี (SCBTG3P3E) มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท เสนอขายระหว่างวันที่ 14 – 18 พฤษภาคม 2558 นี้ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท โดยตั้งเป้าหมายจ่ายคืนผลตอบแทน 2 ครั้งๆ ละ 3% ภายในระยะเวลา 7 เดือน
โดยกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ทริกเกอร์ 3% พลัส 3% ฟันด์ อี (SCBTG3P3E) มีนโยบายการบริหารกองทุนเชิงรุก กลยุทธ์การลงทุน คือ เลือกลงทุนในหุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานดี และราคาตามปัจจัยพื้นฐานยังอยู่ในระดับต่ำ เช่น กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีจากการที่ราคาน้ำมันกำลังปรับตัวเข้าสู่จุดสมดุล และกำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2557 และกลุ่มส่งออกที่ได้รับประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงในระยะสั้น รวมถึงกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากโครงการลงทุนภาครัฐและภาคเอกชน ในช่วงครึ่งหลังของปี เช่น ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ ที่ราคาปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมาก สามารถทยอยซื้อสะสมได้ นอกจากนี้กองทุนยังสามารถใช้ตราสารอนุพันธ์เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารกองทุนตามสภาวะตลาดที่ค่อนข้างผันผวนในขณะนี้ได้อีกทางหนึ่ง
นายสมิทธ์ กล่าวว่า สำหรับภาพรวมการลงทุนในปี 2558 เศรษฐกิจโลกโดยรวมฟื้นตัว รวมทั้งหลายประเทศมีมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน โดยดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับต่ำและมีเม็ดเงินสภาพคล่องเพิ่มขึ้น ส่งผลให้สภาพคล่องในระบบยังคงมีสูง ทำให้เกิดความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูง ซึ่งทำให้การลงทุนในตลาดทุนยังเป็นสินทรัพย์ที่จะให้ผลตอบแทนสูงกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่น ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศจีนทำให้ภูมิภาคเอเชียกลับมาเป็นที่น่าสนใจลงทุนอีกครั้ง