บลจ.กสิกรไทย ออกกองทุน KEFF6MBGคาดผลตอบแทน 2% ขาย 26 พ.ค.-2 มิ.ย
นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บริษัทจะเปิดขายกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน บีจี (KEFF6MBG) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.00% ต่อปี เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุน รวมถึงลูกค้ากลุ่มเดิมที่มีกองทุนครบกำหนดอายุและยังต้องการลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้ต่อเนื่อง โดยจะเสนอขายระหว่างวันที่ 26 พ.ค.-2 มิ.ย.58 โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี
นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บริษัทจะเปิดขายกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน บีจี (KEFF6MBG) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.00% ต่อปี เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุน รวมถึงลูกค้ากลุ่มเดิมที่มีกองทุนครบกำหนดอายุและยังต้องการลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้ต่อเนื่อง โดยจะเสนอขายระหว่างวันที่ 26 พ.ค.-2 มิ.ย.58 โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี
นายนาวิน กล่าวว่า สำหรับตราสารหนี้ที่กองทุน KEFF6MBG จะเข้าไปลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วยเงินฝาก Garanti Bank, ประเทศตุรกี, เงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า, ตราสารหนี้ VakifBank, ประเทศตุรกี, ตราสารหนี้ Banco BTG Pactual S.A., ประเทศบราซิล และตราสารหนี้ Standard Bank of South Africa, ประเทศแอฟริกาใต้ โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีสินทรัพย์ในการลงทุนสูงและสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน โดยผู้ลงทุนต้องลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาท
ส่วนภาวะตลาดตราสารหนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยระยะสั้นอายุระหว่าง 3 เดือน – 1 ปี อยู่ที่ 1.50% ถึง 1.51% ต่อปี โดยปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ -0.01% ถึง -0.02% ต่อปี เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมามีแรงซื้อจากนักลงทุนทั้งในและต่างชาติ ประกอบกับธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงอีก 1% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาวะชะลอตัว ขณะที่รายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ เดือนมี.ค.58 ยังไม่มีการส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างชัดเจน ส่งผลให้ในช่วงที่ผ่านมาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของไทยเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก
ด้านอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือนของธนาคารพาณิชย์ไทยขนาดใหญ่ เฉลี่ยอยู่ที่ 1.01% ต่อปี (ณ วันที่ 22 พ.ค.58) ทั้งนี้ ผลตอบแทนของกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ อายุโครงการ 6 เดือนที่บริษัทเปิดจำหน่ายในครั้งนี้ เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการแหล่งพักเงินในช่วงระยะเวลาประมาณ 6 เดือน โดยยังคงให้โอกาสรับผลตอบแทนในอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำหลังหักภาษี ณ ที่จ่าย
อย่างไรก็ตาม บลจ.กสิกรไทยคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี ไปอีกสักระยะหนึ่ง ภายหลังจากได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงติดต่อกันถึง 2 ครั้งนับตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยค่อนข้างเติบโตล่าช้า ทั้งนี้หากตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่ออกมายังมีการฟื้นตัวที่ไม่ชัดเจน อาจส่งผลต่อการดำเนินนโยบายการเงินของกนง.ให้มีท่าทีผ่อนคลายมากขึ้น โดยอาจมีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยลงได้เพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้มีโอกาสปรับลดลงได้
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Fixed Term Fund) ของบลจ.กสิกรไทย ซึ่งเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนเลือกได้กองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค เอ็มพลัส (K-MPLUS) ซึ่งอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมตราสารหนี้ ของบลจ.กสิกรไทย