บลจ.กสิกรไทยออก K-GINCOMEชูโอกาสรับผลตอบแทนรายเดือน
บลจ.กสิกรไทย เตรียมส่งกองทุนเปิดเค โกลบอล อินคัม (K-GINCOME) เสิร์ฟลูกค้าผู้มีเงินลงทุนสูง กระจายลงทุนทั่วโลกทั้งหุ้นปันผลสูง ตราสารหนี้ ไฮยีลด์บอนด์ REITs โดยจะลงทุนสินทรัพย์ทั่วโลกที่เน้นการจ่ายรายได้ประจำ ชูโอกาสรับผลตอบแทนสม่ำเสมอสูงสุด 12 ครั้งต่อปี ลงทุนขั้นต่ำ 550,000 บาท เสนอขายครั้งแรก 2-8 มิ.ย.นี้
นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเสนอขายกองทุน K-GINCOME โดยมีนโยบายลงทุนผ่านกองทุนหลัก JPMorgan Investment Funds – Global Income Fund, Class A (mth) – EUR ซึ่งได้รับความนิยมสูงด้วยขนาดสินทรัพย์มูลค่ารวมกว่า 5 แสนล้านบาท บริหารจัดการโดย J.P. Morgan Asset Management หนึ่งในผู้จัดการกองทุนชั้นนำระดับโลก (ที่มา: J.P. Morgan Asset Management, 30 เม.ย. 58) ทั้งนี้กองทุน K-GINCOME มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ
นายนาวิน กล่าวว่า เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอนี้ กองทุน K-GINCOME จึงเลือกลงทุนในกองทุนหลักดังกล่าว เนื่องจากกองทุนหลักมีกลยุทธ์กระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์กว่า 1,500 หลักทรัพย์ทั่วโลก และจะเน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีการจ่ายรายได้ประจำ อาทิ ตราสารหนี้ หุ้นกู้แปลงสภาพ หุ้นบุริมสิทธิ์ หุ้นที่จ่ายปันผลสูง ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) และสินทรัพย์อื่นๆ ทั่วโลกรวมไปถึงในกลุ่มประเทศเกิดใหม่
นอกจากนี้ กองทุนหลักยังมีจุดเด่น คือ กองทุนมีความยืดหยุ่นในการปรับสัดส่วนการลงทุนให้สอดคล้องและทันต่อสภาวะเศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยทีมผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์บริหารเงินลงทุนยาวนานเฉลี่ยกว่า 30 ปี และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในสินทรัพย์แต่ละประเภททั่วโลก ทำให้กองทุนหลักมีผลการดำเนินงานย้อนหลังที่ดีต่อเนื่อง และมีประวัติการจ่ายผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ โดยผลดำเนินงานย้อนหลัง1 ปี ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 7.4% ต่อปี ผลดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 9% ต่อปี และผลดำเนินงานย้อนหลัง 5 ปี ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 7.7% ต่อปี (ข้อมูล ณ 30 เม.ย. 58)
กองทุน K-GINCOME เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอจากการลงทุนในระยะปานกลางถึงยาว โดยมีผู้เชี่ยวชาญจัดการเรื่องการจัดสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกับภาวะการลงทุน โดยกองทุนจะมีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติไม่เกิน 12 ครั้งต่อปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน อย่างไรก็ดี กองทุนนี้เหมาะกับผู้ที่ยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับค่อนข้างสูง เนื่องจากกองทุนจะมีการลงทุนบางส่วนในตราสารที่มีความเสี่ยงและซับซ้อนสูง จึงเป็นกองทุนที่เสนอขายกลุ่มผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้มีเงินลงทุนสูง โดยผู้ลงทุนสามารถเริ่มต้นลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 550,000 บาท