KTAM ชวนพักเงินใน 2 กองทุนตราสารหนี้อายุ 6 เดือนชูรับผลตอบแทน 1.50-1.95%

KTAM จ่อออก 2 กองทุนตราสารหนี้ในสัปดาห์นี้ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ เอ็นแฮนซ์ 29 ( KTFFE29 ) อายุ 6 เดือน ผลตอบแทนประมาณ 1.95% ต่อปี และกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ทอินเวส 6 เดือน 5 (KTSIV6M5) อายุ 6 เดือน ผลตอบแทนประมาณ 1.50% ต่อปี


นางชวินดา  หาญรัตนกูล  กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.กรุงไทย (KTAM)  เปิดเผยว่า นักลงทุนหันมาพักเงินในกองทุนประเภทตราสารหนี้กำหนดอายุโครงการ หลังดัชนีหุ้นไทยช่วงนี้แกว่งตัวในกรอบแคบเนื่องจากรอปัจจัยสนับสนุนในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีความชัดเจนขึ้น โดยการเปิดขายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้เอฟไอเอฟ เอ็นแฮนซ์ 27 (KTFFE27) ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาสามารถขายได้เต็มมูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาทก่อนระยะเวลาที่กำหนด

ขณะที่ในสัปดาห์นี้  บริษัทได้เปิดจำหน่ายอีก 2 กองทุนตราสารหนี้ ให้ลูกค้าได้เลือกลงทุนตามความเหมาะสม ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ เอ็นแฮนซ์ 29 ( KTFFE29 )  อายุ 6 เดือน เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ประเภท  Medium Term Note  (MTN ) ที่ออกโดย  Banco Santander  ( Brasil ) S.A.   ,  ออกโดย  Banco Latinoamericano de Comercio  Exterior , S.A.   , ออกโดย   Turkiye Vakiflar Bankasi TAO   ,  เงินฝากประจำ  PT Bank Rakyat Indonesia  (PERSERO) Tbk   และเงินฝากประจำ  Yapi ve Kredi Bankasi A.S.   ในสัดส่วนสถาบันการเงินละ 20% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน  ผลตอบแทนประมาณ 1.95% ต่อปี

นอกจากนี้บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายรอบใหม่( Roll Over ) ของกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ทอินเวส 6 เดือน 5 (KTSIV6M5)   อายุ 6 เดือน  เสนอขายถึงวันที่ 14 สิงหาคม 2558  เน้นลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ  ประเภท ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรภาครัฐ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย   เงินฝากธนาคารพาณิชย์    และตราสารหนี้ของภาคเอกชน  เช่น บมจ.เอเชียเสริมกิจลีสซิ่ง  บมจ.บัตรกรุงไทย  บมจ. เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น  ผลตอบแทนประมาณ 1.50% ต่อปี

สำหรับอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศมีการปรับตัวลดลงทุกช่วงอายุ โดยเฉพาะรุ่นอายุคงเหลือมากกว่า 4 ปี จากการที่ตลาดมองว่าแม้คณะกรรมการนโยบายบการเงิน (กนง.)  ไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากการประชุมครั้งที่ผ่านมา แต่แรงกดดันจากเงินเฟ้อยังไม่มี และส่งออกไม่ดี  อัตราผลตอบแทนคงไม่สามารถปรับขึ้นในระยะเวลาอันใกล้ได้  ทำให้นักลงทุนบางกลุ่มเริ่มเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตราสารระยะกลางตั้งแต่ 5 ปี ขึ้นไป

ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ปรับตัวผันผวนตามตัวเลขเศรษฐกิจ และ แนวโน้มการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย  โดยอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือต่ำกว่า 7 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนพันธบัตรระยะยาวอัตราผลตอบแทนปรับตัวลดลง ตามการคาดการณ์ที่ว่า การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยน่าจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปจากการที่เงินเฟ้อยังต่ำตามราคาน้ำมัน และตัวเลขการจ้างงานที่ยังไม่แข็งแกร่งพอ โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6 bps. มาอยู่ที่ 0.73% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5 bps. มาอยู่ที่ 1.59% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง -2 bps.มาอยู่ที่ 2.18% ต่อปี

Back to top button