KTAM ออก 2 กองหนี้ในปท.-ตปท.เสนอขายตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค.-1 ก.ย.

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.กรุงไทย เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้บริษัทเปิดจำหน่าย 2 กองทุนตราสารหนี้ ซึ่งประกอบด้วย กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ เอ็นแฮนซ์ 30(KTFFE30) เสนอขายวันที่ 26 ส.ค.-1 ก.ย.58 อายุ 6 เดือน


นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.กรุงไทย เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้บริษัทเปิดจำหน่าย 2 กองทุนตราสารหนี้ ซึ่งประกอบด้วย กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ เอ็นแฮนซ์ 30(KTFFE30) เสนอขายวันที่ 26 ส.ค.-1 ก.ย.58 อายุ 6 เดือน

โดยเน้นลงทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งประกอบด้วย MTN ที่ออกโดย Banco Latinoamericano de Comercio Exterior, S.A., MTN ที่ออกโดย Standard Bank of South Africa, เงินฝากประจำ Turkite Garanti Bankasi A.S., เงินฝากประจำ Yapi ve Kredi Bankasi A.S. ในสัดส่วน 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในตั๋วแลกเงิน ผลตอบแทนประมาณ 1.90% ต่อปี

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายรอบใหม่(Roll Over) ของกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 3 เดือน คุ้มครองเงินต้น 3 ( KTFIX3M3 ) เสนอขายถึงวันที่ 28 ส.ค.58 อายุ 3 เดือน เน้นลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ประเภท พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ ผลตอบแทนประมาณ 1.10% ต่อปี  

สำหรับแนวโน้มผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศ มีการปรับตัวลดลงเกือบทุกช่วงอายุโดยเฉพาะรุ่นอายุคงเหลือตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไป โดยตลาดมีแรงซื้อจากความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อลดความเสี่ยงอันเนื่องมาจากเหตุระเบิดที่ราชประสงค์ รวมถึงการลดค่าเงินหยวนของจีนซึ่งอาจนำไปสู่การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

ปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้น่าจะเป็นนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจของทีมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจชุดใหม่ การเคลื่อนย้ายเงินลงทุนระหว่างประเทศ และการเคลื่อนไหวของตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศ ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาปรับตัวลดลงทุกช่วงอายุ ตามความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นทั่วโลก และอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ไม่ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน โดยอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวลดลง -9 bps. มาอยู่ที่ 0.64% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง -17 bps. มาอยู่ที่ 1.44% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง -15 bps.มาอยู่ที่ 2.05% ต่อปี

 

Back to top button