ทิสโก้ชู”เยอรมัน อิควิตี้ ทริกเกอร์”กอง 5เป้าหมายเลิกโครงการ 8% ใน 8 เดือน
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า จากมุมมองการลงทุนของทิสโก้ ที่แนะนำลงทุนในหุ้นเยอรมันมาอย่างต่อเนื่องนั้น ล่าสุด เพื่อจับจังหวะการลงทุนในช่วงเวลาที่เหมาะสม บลจ. ทิสโก้ จึงเปิดเสนอขาย "กองทุนเปิด ทิสโก้ เยอรมัน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8%#5" ซึ่งเป็นกองทริกเกอร์ฟันด์หุ้นเยอรมันกองที่ 5 มีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 5,000 บาท โดยเสนอขายครั้งแรก 9-14 ก.ย. 58
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า จากมุมมองการลงทุนของทิสโก้ ที่แนะนำลงทุนในหุ้นเยอรมันมาอย่างต่อเนื่องนั้น ล่าสุด เพื่อจับจังหวะการลงทุนในช่วงเวลาที่เหมาะสม บลจ. ทิสโก้ จึงเปิดเสนอขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ เยอรมัน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8%#5” ซึ่งเป็นกองทริกเกอร์ฟันด์หุ้นเยอรมันกองที่ 5 มีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 5,000 บาท โดยเสนอขายครั้งแรก 9-14 ก.ย. 58
โดยทิสโก้มองว่าเยอรมันยังมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่มั่นคงแข็งแรงที่สุดในยุโรป ล่าสุดตัวเลข PMIของเยอรมันเดือน ส.ค. ปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 53 จุด ถือว่าสูงสุดในรอบ 16 เดือน นอกจากนี้คาดว่าการขึ้นดอกเบี้ยของFed ที่อาจจะขึ้นอีก 1 ครั้งในปีนี้ จะส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯ มีทิศทางแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร ซึ่งจะช่วยสนับสนุนกำไรของบริษัทส่งออก ซึ่งเป็นสัดส่วนใหญ่ของตลาดหุ้นเยอรมันที่มีสัดส่วนยอดขายจากนอกประเทศถึงมากกว่า 80%
อีกทั้งตลาดหุ้นเยอรมันไม่มีสัดส่วนของบริษัทในกลุ่มพลังงาน จึงไม่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมัน นอกจากนี้ Valuation ตลาดหุ้นเยอรมันก็ยังดูน่าสนใจ โดยซื้อขายที่ Forward P/E ที่ 11-12 เท่า โดยมีDiscount จาก STOXX600 อยู่ราว 16% ซึ่งสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ดังนั้นทิสโก้จึงยังคงแนะนำให้overweight ตลาดหุ้นเยอรมัน” นายสาห์รัช กล่าว
ทั้งนี้ “กองทุนเปิด ทิสโก้ เยอรมัน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8%#5” จะเน้นลงทุนในบริษัทชั้นนำของโลกที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นเยอรมัน (DAX) อาทิ Bayer, Daimler, Siemens, Allianz, SAP, Deutsche Bank และ Volkswagen ผ่านกองทุนหลักคือ db x-trackers DAX UCITS ETF (DR) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนของกองทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนีตลาดหลักทรัพย์เยอรมัน (DAX) โดยมีเป้าหมายเลิกโครงการที่ 8% ภายในระยะเวลา 8 เดือน หรือ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งหลังจากเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนซื้อขายสับเปลี่ยนได้ทุกวันทำการ ซึ่งการกำหนดเป้าหมายดังกล่าว ไม่ใช่ประมาณการหรือการรับประกันผลตอบแทนว่าผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนตามเป้าหมายเมื่อเลิกกองทุน นอกจากนี้กองทุนยังมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ประมาณ 90% ของมูลค่าทรัพย์สินที่ลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนของเงินยูโรอีกด้วย