บลจ.เอ็มเอฟซี ขายกองทุน I-OIL5S2ตั้งเป้า 5 ใน 5 เดือนขายวันนี้-15 ก.ย.
เอ็มเอฟซีเปิดขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล ออยล์ 5 ซีรี่ส์ 2 (I-OIL5S2) ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว ตั้งเป้าหมายเลิกโครงการร้อยละ 5 ภายใน 5 เดือน เปิดขายวันนี้- 15 กันยายน 2558
นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ต้นเดือนกันยายนนี้เอ็มเอฟซีได้ประสบความสำเร็จอีกครั้งจากการบริหารกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล ออยล์ 5 ซีรี่ส์ 1 ให้เข้าเป้าหมายเพื่อเลิกกองทุนภายในเวลาเพียง 1 เดือน 4 วัน
โดยปีนี้มีกองทุนที่เติบโตเข้าเป้าหมายเพื่อเลิกกองทุนไปแล้วรวม 7 กองทุน (ตารางประกอบ) ทั้งนี้ เพื่อโอกาสในการลงทุน เอ็มเอฟซีจึงเสนอขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล ออยล์ 5 ซีรี่ส์ 2 หรือกองทุนเปิด I-OIL5S2 มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน United States Oil Fund LP (“USO”) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NYSE Arca บริหารจัดการโดย United States Commodity Funds, LLC
โดยกองทุนเปิด I-OIL5S2 จะลงทุนในกองทุน USO โดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่เกินร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยตั้งเป้าหมายเพื่อเลิกกองทุน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ภายใน 5 เดือน และกองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามสภาวการณ์โดยขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน
ทั้งนี้กองทุน USO ลงทุนในสัญญาฟิวเจอร์ที่อ้างอิงกับราคาน้ำมันดิบคุณภาพดี น้ำมันดิบประเภทอื่น ดีเซลหุงต้ม น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ และเชื้อเพลิงปิโตรเลียมอื่นๆ ที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ NYMEX, ICE Futures Exchange หรือตลาดหลักทรัพย์อื่นในอเมริกาและต่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์การลงทุนเพื่อให้อัตราการเปลี่ยนแปลงรายวันของมูลค่าสุทธิของหน่วยลงทุนสะท้อนอัตราการเปลี่ยนแปลงรายวันของราคาน้ำมันดิบคุณภาพดี ซึ่งวัดจากการเปลี่ยนแปลงของดัชนีอ้างอิง Benchmark Oil Futures Contract
จากข้อมูลของสายบริหารกองทุนของเอ็มเอฟซี มองว่ามีปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมันจาก 1. อิหร่าน และสหประชาติชาติ (UN) ได้บรรลุข้อตกลงในการหยุดพัฒนาและใช้เทคโนโลยีนิวเคลียร์ได้สำเร็จ ณ วันที่ 14 ก.ค. 58 ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ตลาดกังวลถึงการยกเลิกการคว่ำบาตร และปริมาณน้ำมันดิบที่จะเข้ามาในตลาด ซึ่งอาจสูงถึง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากมุมมองของบลจ. เอ็มเอฟซี และสำนักวิจัยหลายแหล่งทั่วโลก มองว่าการที่สหรัฐฯ จะต้องมีการยื่นส่งเรื่องเข้าสภาคองเกรส และสหประชาชาติ ยังคงต้องเข้าไปตรวจสอบอิหร่าน ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวต้องใช้เวลา การยกเลิกการคว่ำบาตรทางการค้าอย่างเป็นทางการจึงอาจเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดในเดือนธ.ค. 58 อิหร่านจึงต้องใช้เวลาราว 6-7 เดือน หลังจากการยกเลิกการคว่ำบาตรในการเพิ่มการผลิตน้ำมันขึ้นสู่ระดับ 8 แสนถึง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ Supply จากอิหร่านน่าจะมาเร็วที่สุดคือครึ่งปีหลังของปี 2559 อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันปรับตัวลงมากว่า -25.7% จากระดับ $60 มาที่ $45.60 และเข้าใกล้ระดับแนวรับใหญ่ในรอบ 7 ปี ที่ $40 ซึ่งได้ priced in ความกังวลดังกล่าวไปแล้ว
2. โดยปกติในช่วงปลายปีราคาน้ำมันดิบมีโอกาสปรับตัวขึ้นเนื่องจากเป็นฤดูหนาวของประเทศด้านตะวันตกดังนั้น demand ของน้ำมันในช่วงเดือนธ.ค.ถึงเดือนก.พ.จะสูงที่สุด (High Season)
3. ปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ทำระดับสูงสุดในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ เนื่องจากกิจกรรมเศรษฐกิจของสหรัฐที่ชะลอตัวนั้นกำลังปรับตัวลงต่อเนื่องสู่ระดับ 455 ล้านบาร์เรล แต่ Demand ของน้ำมันไม่ได้ลดลง
4. ตลาดยังคงจับตามองท่าทีของกลุ่ม OPEC และประเทศรัสเซียว่าจะเริ่มมีการตกลงร่วมกันในการลดการผลิตน้ำมันลง เพื่อพยุงราคาน้ำมันหรือไม่ เช่นเดียวกับการประชุมประจำปีของกลุ่ม OPEC ในปลายเดือน พ.ย. 58 ว่ากลุ่ม OPEC จะเปลี่ยนแปลงนโยบายในการผลิตน้ำมันหรือไม่
ทั้งนี้ถือเป็นจังหวะการลงทุนที่ดีของกองทุนเปิด I-OIL5S2 เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลงมามากแล้วระดับแนวรับใหญ่ในรอบ 7 ปี ที่ $40 และจะเข้าสู่ช่วง High Season ในเดือนธ.ค.
สำหรับกองทุนเปิด I-OIL5S2 จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้ผู้ถือหน่วยลงทุนเข้ากองทุนเปิด MM-GOV ไม่ต่ำกว่าหน่วยลงทุนละ 10.50 บาท และบริษัทจะเลิกโครงการกองทุนดังกล่าว ภายใน 5 เดือนแรกเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.60 บาทขึ้นไปเป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกันและทรัพย์สินเป็นเงินสดทั้งหมดในสกุลเงินบาท หรือหลัง 5 เดือนแรกเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.55 บาทขึ้นไปเป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกันและทรัพย์สินเป็นเงินสดทั้งหมดในสกุลเงินบาท
กองทุนเปิด I-OIL5S2 เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการโอกาสของผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศซึ่งมีนโยบายลงทุนในสัญญาฟิวเจอร์สที่อ้างอิงกับราคาน้ำมันดิบคุณภาพดี โดยสามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศ รวมทั้งมีความรู้ความเข้าใจถึงปัจจัยที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุนในต่างประเทศ