บลจ.กสิกรไทย ส่งกอง KEFF6MBZชูผลตอบแทน 2% ขาย 13-19 ต.ค.
นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า เพื่อตอบโจทย์ความต้องการสำหรับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ระดับต่ำถึงปานกลาง บริษัทจึงได้เปิดเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทกำหนดอายุโครงการอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อตอบสนองผู้ลงทุนที่ต้องการล็อกผลตอบแทน รวมถึงลูกค้ากลุ่มเดิมที่มีกองทุนครบกำหนดอายุและยังต้องการลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้ต่อเนื่อง
นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า เพื่อตอบโจทย์ความต้องการสำหรับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ระดับต่ำถึงปานกลาง บริษัทจึงได้เปิดเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทกำหนดอายุโครงการอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อตอบสนองผู้ลงทุนที่ต้องการล็อกผลตอบแทน รวมถึงลูกค้ากลุ่มเดิมที่มีกองทุนครบกำหนดอายุและยังต้องการลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้ต่อเนื่อง
โดยในระหว่างวันที่ 13-19 ตุลาคม 2558 บลจ.กสิกรไทยจะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน บีแซท (KEFF6MBZ) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.00% ต่อปี โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี
นายนาวินกล่าวต่อไปว่า อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ภายในประเทศในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการปรับตัวลดลงในทุกช่วงอายุตราสาร เนื่องจากมีแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลกลับเข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเป็นการเข้าซื้อในตราสารหนี้ระยะสั้น ทั้งนี้ปัจจัยหนุนเกิดจากกระแสเงินทุนที่ไหลออกจากสหรัฐฯ จากกรณีที่ตลาดส่วนใหญ่มองว่า FED มีโอกาสเลื่อนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายออกไปจนถึงปีหน้า ภายหลังจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนกันยายนออกมาน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่จะต้องติดตามต่อไป คือการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะส่งผลต่อการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ต่อไป อาทิ การประกาศตัวเลขภาคการส่งออกของจีนในเดือนกันยายน และตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ซึ่งอาจจะส่งผลทำให้ตลาดเกิดความผันผวนขึ้นได้ในระยะสั้นจากความไม่แน่ชัดดังกล่าว บลจ.กสิกรไทยจึงแนะนำให้ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ไม่มาก สามารถเลือกลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้ที่มีกำหนดอายุเวลาอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อล็อกผลตอบแทนและรอดูจังหวะการลงทุนต่อไป
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Fixed Term Fund) ของบลจ.กสิกรไทย ซึ่งเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนเลือกได้กองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค เอ็มพลัส (K-MPLUS) ซึ่งอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมตราสารหนี้ ของบลจ.กสิกรไทย
นายนาวินกล่าวถึงรายละเอียดของกองทุนต่อไปว่า สำหรับตราสารหนี้ที่กองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน บีแซท (KEFF6MBZ) จะเข้าไปลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วยเงินฝาก Garanti Bank, ประเทศตุรกี, เงินฝาก Bank of China, ตราสารหนี้ Agricultural Bank of China, ตราสารหนี้ Akbank T.A.S., ประเทศตุรกี และตราสารหนี้ Bank of East Asia Ltd. โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีสินทรัพย์ในการลงทุนสูงและสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน โดยผู้ลงทุนต้องลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาท