บลจ.บัวหลวง ขาย B-GLOBALRMFเสนอขาย IPO วันที่ 2-10 พ.ย.58
นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากเสนอขายกองทุนบัวหลวงหุ้นโกลบอลเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ลงทุนที่ต้องการร่วมเป็นเจ้าของกิจการชั้นนำระดับโลกและต้องการทางเลือกในการกระจายความเสี่ยงนอกเหนือจากการลงทุนในกิจการดีๆ ในประเทศ จึงได้จัดตั้งกองทุนหุ้นโกลบอล RMF ขึ้นมาตามคำเรียกร้องของผู้ลงทุน
นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากเสนอขายกองทุนบัวหลวงหุ้นโกลบอลเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ลงทุนที่ต้องการร่วมเป็นเจ้าของกิจการชั้นนำระดับโลกและต้องการทางเลือกในการกระจายความเสี่ยงนอกเหนือจากการลงทุนในกิจการดีๆ ในประเทศ จึงได้จัดตั้งกองทุนหุ้นโกลบอล RMF ขึ้นมาตามคำเรียกร้องของผู้ลงทุน
โดยกองทุนบัวหลวงชวนร่วมลงทุนในกิจการชั้นนำระดับโลกพร้อมโอกาสสะสมความมั่งคั่งในรูปแบบกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF)กับกองทุนใหม่ “กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นโกลบอลเพื่อการเลี้ยงชีพ” หรือ B-GLOBALRMF โดยเสนอขาย IPO วันที่ 2-10 พ.ย. นี้ ผ่านกองทุนหลัก Wellington Management Portfolios (Luxembourg)-Global Opportunities Equity Portfolio ที่มีความโดดเด่นในการคัดเลือกหุ้นรายตัว และได้รับการจัดอันดับกองทุน ระดับ 5 ดาว จากมอร์นิ่งสตาร์
Wellington Management Company ใช้วิธีการเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีเป็นรายตัวแบบ Bottom-up ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับ บลจ.บัวหลวง ถือปฏิบัติตลอดมากว่า 23ปี Wellington Management Company มีทีมจัดการลงทุนและทีมวิเคราะห์มากประสบการณ์กว่า 590 คน กระจายอยู่ทั่วโลก ทำการคัดสรรบริษัทลงทุนกว่า 4,500 บริษัท เพื่อคัดเลือกบริษัทที่ดีที่สุดมาลงทุนในกองทุน Wellington Management Portfolios (Luxembourg) – Global Opportunities Equity Portfolio
กิจการที่ลงทุนเป็นธุรกิจที่เปิดกว้าง มีอนาคตที่ดี มีการขายไปทั่วโลก ไม่ได้จำกัดการทำธุรกิจเฉพาะในประเทศที่บริษัทนั้นจัดตั้งเท่านั้น ดังจะเห็นได้จากสัดส่วนการลงทุนที่ให้น้ำหนักลงทุนที่มากกว่าเกณฑ์มาตรฐานตามดัชนี MSCI All Country World ในบางกลุ่มอุตสาหกรรมที่โดดเด่น เช่น กลุ่มเฮลธ์แคร์ ไอที และกลุ่มสินค้าที่ไม่ใช่สินค้าพื้นฐานต่อดำรงชีพ(Consumer discretionary) ตามข้อมูล ณ สิ้นเดือนกันยายน 2558 โดยกองทุนนี้ได้รับการจัดอันดับ 5 ดาว (Five Star Overall Morningstar Rating) ประเภท Global Large-Cap Growth Equity จาก Morningstar อีกด้วย
ทั้งนี้ หุ้น 10 อันดับแรกและสัดส่วนที่กองทุนหลักเลือกลงทุน ณ สิ้นเดือนกันยายน 2558 ได้แก่
Bristol-Myers Squibb 3.7% (สหรัฐ) บริษัทผลิตยาด้านชีวเวชภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตในด้านการผลิต และขายยารักษาโรคและยาบำรุง บริษัทมีการทดลองเพื่อที่จะบำบัดโรคร้ายแรง เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ เอดส์ เบาหวาน ไขข้อ ตับอักเสบ โรคที่ร่างกายปฏิเสธในการรับการปลูกถ่ายอวัยวะ และความไม่ปกติทางจิต
Google Inc 2.9% (สหรัฐ) บริษัทเทคโนโลยีที่เชี่ยวชาญในการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ตและผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงเทคโนโลยีการโฆษณาออนไลน์ ค้นหา คอมพิวเตอร์ และซอฟต์แวร์
Microsoft Corp 2.7% (สหรัฐ) บริษัทซอร์ฟแวร์ และเทคโนโลยีทางอินเตอร์เนตซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วโลก
Bank of America Corp 2.7% (สหรัฐ) ธนาคารใหญ่อันดับสองของสหรัฐฯ เมื่อพิจารณาจากมูลค่าของสินทรัพย์
Allergan PLC 2.5% (สหรัฐ) บริษัทผลิตยาทั่วไปและเฉพาะทาง ที่มีผลิตภัณฑ์ยาด้านเภสัชกรรมทั่วโลก
Vonovia SE 2.1% (เยอรมันนี) บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมันที่มีธุรกิจครอบคลุมทั้งยุโรป
BNP Paribas SA 2.1% (ฝรั่งเศส) ธนาคารสัญชาติฝรั่งเศส ดำเนินธุรกิจ 3 ด้าน ได้แก่ บริการการเงินสำหรับลูกค้ารายย่อย สินเชื่อบรรษัทกับวานิชธนกิจ และบริการด้านการลงทุนและผู้ดูแลผลประโยชน์ มีตลาดใน 4 ประเทศ ได้แก่ ฝรั่งเศส อิตาลี เบลเยี่ยม และลักเซมเบิร์ก
Estee Lauder Cos 2.0% (สหรัฐ) บริษัทที่ผลิตและทำการตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงผิว น้ำหอม และผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม มีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมหลากหลาย
Visa Inc 2.0% (สหรัฐ) บริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับบัตรเครดิต ที่ต้องการใช้ระบบการซื้อขายหรือใช้เงินผ่านระบบอิเลคโทรนิคโดยใช้ชื่อภายใต้แบรนด์ Visa
Mondelez Intl Inc 2.0% (สหรัฐ) บริษัทขนม ลูกอม ชอกโกแล๊ต อาหารและเครื่องดื่ม มีพนักงานกว่า 107,000 คนทั่วโลก เช่น โอรีโอ ชิปอะฮอย แคทเบอร์รี่ ท็อปเบอโลน เป็นต้น