บลจ.ไทยพาณิชย์ ทุ่มกว่า 2.4 พันลบ.ปันผลกองอสังหาฯ-โครงสร้างพื้นฐาน

นายสมิทธ์ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานภายใต้การบริหารของ บลจ.ไทยพาณิชย์ อยู่ในระดับที่น่าพอใจถึงแม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจประเทศไทยในช่วง 9เดือนที่ผ่านมาจะค่อนข้างทรงตัว แต่บริษัทฯ ยังคงสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยพร้อมกัน 10 กองทุนได้ในอัตราที่ดีและสม่ำเสมอ สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม- 30 กันยายน 2558 จำนวน 8 กองทุน ส่วนอีก 2 กองทุนเป็นผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 เมษายน- 30 กันยายน 2558 รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 2,414 ล้านบาท โดยจะจ่ายในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2558 นี้

ทั้งนี้สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม – 30 กันยายน 2558 ประกอบด้วยกองทุนอสังหาฯ ประเภทอาคารสำนักงาน จำนวน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN คอมเมอร์เชียล โกรท (CPNCG) ซึ่งเป็นกองทุนรวมประเภทอาคารสำนักงานเกรดขนาดใหญ่ ที่ลงทุนในอาคารสำนักงาน ดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิล์ด โดยจะจ่ายปันผลในอัตรา 0.2160 บาทต่อหน่วย แล้วเมื่อเปรียบเทียบกับราคาเสนอขายครั้งแรกในปี 2556, 2557 และ 2558 มีการจ่ายผลตอบแทนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเท่ากับ 7.6%, 7.7% และ 8.2% ตามลำดับ โดยในปี 2558 มีผลตอบแทนเติบโตสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าถึง 6.6% ซึ่งนับถึงปัจจุบันได้ประกาศจ่ายเงินปันผลไปแล้วทั้งสิ้นในอัตรา 2.4290 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 14 ก.พ. 2556)

ขณะที่กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไพร์มออฟฟิศ (POPF) ที่ลงทุนในอาคารสมัชชาวานิช 2, อาคารเพลินจิต เซ็นเตอร์ และอาคารบางนา ทาวเวอร์จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.2620 บาทต่อหน่วย โดยนับถึงปัจจุบันได้ประกาศจ่ายเงินปันผลไปแล้วทั้งสิ้นในอัตรา 4.5695 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 7 ก.ย. 2554 ) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แสนสิริ ไพร์มออฟฟิศ (SIRIP) ซึ่งลงทุนกรรมสิทธิ์ในโครงการอาคารสิริภิญโญ จะจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.1500 บาทต่อหน่วย นับถึงปัจจุบันได้ประกาศจ่ายเงินปันผลไปแล้วทั้งสิ้นในอัตรา 0.9136 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 28 ส.ค. 2557)

กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม 1 กองทุน คือ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF) ในอัตรา 0.2370 บาทต่อหน่วย นับถึงปัจจุบันได้ประกาศจ่ายเงินปันผลไปแล้วทั้งสิ้นในอัตรา 1.6469 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557) ด้านกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ประเภทศูนย์การค้า จำนวน 1 กองทุนคือ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF) ซึ่งลงทุนในศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา รัชดา-พระราม 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 โครงการเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า และโครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต โดยจะจ่ายปันผลในอัตรา 0.2245 บาทต่อหน่วย นับถึงปัจจุบันได้ประกาศจ่ายเงินปันผลไปแล้วทั้งสิ้นในอัตรา 10.1615 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 6มี.ค. 2549)

กองทุนอสังหาฯ ประเภทโรงงานและคลังสินค้า มีจำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน อินดัสเทรียล โกรท (TGROWTH) จ่ายปันผลในอัตรา 0.2005 บาทต่อหน่วย โดยนับถึงปัจจุบันได้ประกาศจ่ายเงินปันผลไปแล้วทั้งสิ้นในอัตรา1.6135 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 22 พ.ค. 2557) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค (PPF) จ่ายปันผลในอัตรา 0.2100 บาทต่อหน่วย นับถึงปัจจุบันได้ประกาศจ่ายเงินปันผลไปแล้วทั้งสิ้นในอัตรา 1.0411 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 24 พ.ย. 2557)

และกองทุนอสังหาฯ ประเภทคอมมิวนิตี้มอลล์ จำนวน 1 กองทุน คือ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์คริสตัล รีเทล โกรท (CRYSTAL) ที่ลงทุนในโครงการเดอะ คริสตัล (The Crystal) และโครงการคริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC) จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.1978 บาทต่อหน่วย นับถึงปัจจุบันได้ประกาศจ่ายเงินปันผลไปแล้วทั้งสิ้นในอัตรา 1.7249 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 15 พ.ย. 2556)

สำหรับ 2 กองทุนสุดท้าย คือ กองทุนอสังหาฯ ประเภทโรงแรม จำนวน 2 กองทุน สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 30 กันยายน 2558ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอราวัณ โฮเทล โกรท (ERWPF) ที่ลงทุนในโรงแรมไอบิส ป่าตอง และโรงแรมไอบิส พัทยา จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.0871 บาทต่อหน่วย นับถึงปัจจุบันได้ประกาศจ่ายเงินปันผลไปแล้วทั้งสิ้นในอัตรา 1.2784 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 15 พ.ย. 2556) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์โรงแรมศรีพันวา (SPWPF) ที่ลงทุนในโครงการโรงแรมศรีพันวา จังหวัดภูเก็ต โดยจะจ่ายปันผลในอัตรา 0.2208 บาทต่อหน่วย นับถึงปัจจุบันได้ประกาศจ่ายเงินปันผลไปแล้วทั้งสิ้นในอัตรา 1.4576 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 19 ก.พ. 2557)