บลจ.กสิกรไทยออกกองหุ้นสุขภาพใหม่ทางเลือกผู้ชอบรับผลตอบแทนอิงค่าเงิน
บลจ.กสิกรไทย ชวนบริหารสุขภาพการเงินรับโอกาสเติบโตจากหุ้นกลุ่มสุขภาพชั้นนำทั่วโลก พร้อมเปิดโอกาสรับผลตอบแทนอิงตามอัตราแลกเปลี่ยน กับกองทุนเปิดเค โกลบอล เฮลท์แคร์ หุ้นทุน Unhedged [K-GHEALTH(UH)] ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ชอบรับผลตอบแทนตามการเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เสนอขายครั้งแรกวันที่ 8-14 ธ.ค.นี้ ลงทุนขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท
นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่าจากแนวโน้มการเติบโตของหุ้นในกลุ่มธุรกิจด้านสุขภาพซึ่งเป็นเทรนด์การลงทุนที่ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงกระแสตอบรับที่ดีของผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนกับกองทุนของบลจ.กสิกรไทย ได้แก่ กองทุนเปิดเค โกลบอล เฮลท์แคร์ หุ้นทุน (K-GHEALTH) และกองทุนเปิดเค โกลบอล เฮลท์แคร์ หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (KGHRMF) ซึ่งบริษัทได้เปิดเสนอขายไปในช่วงก่อนหน้า
เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนจากหุ้นในกลุ่มธุรกิจสุขภาพทั่วโลก รวมถึงยังต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่เคลื่อนไหวไปตามภาวะอัตราแลกเปลี่ยน บลจ.กสิกรไทยจะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค โกลบอล เฮลท์แคร์ หุ้นทุน Unhedged [K-GHEALTH(UH)] ในระหว่างวันที่ 8 – 14 ธันวาคม 2558 มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท โดยกองทุนมีนโยบายกระจายการลงทุนในหุ้นกลุ่มธุรกิจด้านสุขภาพต่างๆ ทั่วโลก ผ่านกองทุนหลักต่างประเทศ ได้แก่ JP Morgan Funds – Global Healthcare Fund, Class A (acc) โดยจะลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และกองทุนจะไม่มีนโยบายป้องการความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน จึงเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนให้เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ พร้อมทั้งสามารถยอมรับความเสี่ยงหรือความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงมีเวลาติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดอัตราแลกเปลี่ยนอย่างต่อเนื่องด้วย
จุดเด่นของกองทุนหลักจะเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มสุขภาพต่างๆ อาทิ เวชภัณฑ์ เทคโนโลยีชีวภาพ บริการด้านสุขภาพ และเทคโนโลยีการแพทย์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงและมีผลประกอบการที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยกองทุนหลักบริหารจัดการโดย J.P. Morgan Asset Management หนึ่งในผู้จัดการกองทุนชั้นนำระดับโลก และมีทีมงานจัดการลงทุนที่มีประสบการณ์ยาวนานอยู่ในธุรกิจเฮลท์แคร์ (Healthcare) กระจายอยู่ในภูมิภาคสำคัญต่างๆ อาทิ สหรัฐฯ อังกฤษและญี่ปุ่น จึงมีความเชี่ยวชาญและสามารถเข้าถึงข้อมูลของบริษัทต่างๆ ได้อย่างเจาะลึกและแม่นยำ ทำให้กองทุนหลักมีผลการดำเนินงานย้อนหลังที่สามารถเอาชนะเกณฑ์มาตรฐานได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีผลการดำเนินงานย้อนหลังในรอบ 5 ปี เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 23.93% ต่อปี เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานที่ 18.03% ต่อปี และมีผลดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี เฉลี่ยที่ประมาณ 25.69% ต่อปี เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานที่ 19.67% ต่อปี (ข้อมูล ณ 30 พ.ย. 58) นอกจากนี้กองทุนหลักยังได้รับการจัดอันดับ 5 ดาวจากมอร์นิ่งสตาร์
สำหรับมุมมองการลงทุนในหุ้นกลุ่ม Healthcare นายนาวินกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมูลค่าตลาดหุ้นในกลุ่มเฮลท์แคร์ มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 4.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 12% ของมูลค่าตลาดหุ้นโลก และหุ้นกลุ่มนี้ได้มีการปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น โดยในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา รายได้ของบริษัทจดทะเบียนกลุ่มธุรกิจสุขภาพทั่วโลกเติบโตกว่า 82% โดยเฉพาะในประเทศเกิดใหม่ที่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะกว่า 320% ทั้งนี้แม้แต่ในบางช่วงที่ภาวะตลาดหุ้นโลกมีความผันผวน หุ้นในกลุ่มเฮลท์แคร์ยังสามารถปรับตัวเป็นบวกได้ โดยในระยะเวลาเฉลี่ย 10 ปี ตลาดหุ้นกลุ่มสุขภาพมีค่าความผันผวนอยู่ที่ 13% ซึ่งต่ำกว่าตลาดหุ้นโลกที่มีค่าความผันผวนอยู่ที่ 16% ดังนั้นจึงนับว่าเป็นหุ้นกลุ่มหนึ่งที่มีความน่าสนใจ โดยเฉพาะนักลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนที่สูงขึ้นและเชื่อมั่นต่อการเติบโตของหุ้นกลุ่มสุขภาพนี้ในระยะยาว