บลจ.ไทยพาณิชย์ชี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปีหน้าผันผวน หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย

นายสมิทธ์ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางการลงทุนหลังจากที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการประชุมเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2558 ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% อยู่ในช่วง 0.25-0.50% ซี่งเป็นการปรับขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2549 โดยมองว่าตลาดทุนทั่วโลกได้คาดการณ์และตอบสนองต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดไปก่อนหน้านี้แล้ว และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้น่าจะมีผลกระทบในทางลบต่อตลาดทุนทั่วโลกไม่มากนัก


นายสมิทธ์ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางการลงทุนหลังจากที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการประชุมเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2558 ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% อยู่ในช่วง 0.25-0.50% ซี่งเป็นการปรับขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2549 โดยมองว่าตลาดทุนทั่วโลกได้คาดการณ์และตอบสนองต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดไปก่อนหน้านี้แล้ว และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้น่าจะมีผลกระทบในทางลบต่อตลาดทุนทั่วโลกไม่มากนัก

สำหรับภาพรวมของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในปี 2559 ยังคงได้รับความผันผวนแต่ถือว่าเป็นโอกาสการลงทุนเช่นเดียวกัน โดยตลาดหุ้นอาจจะได้รับแรงกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2-3 ครั้ง ในปี 2559 ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจจะอยู่ที่ระดับ 1.25% ในสิ้นปี 2559 โดยปัจจัยดังกล่าวทำให้ให้นักลงทุนมีความกังวลต่อผลกระทบที่จะมีต่อตลาดหุ้น แต่อย่างไรก็ตามจากข้อมูลในอดีตพบว่าจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกในอดีตช่วงปี 2537, 2542 และ 2547 ตลาดหุ้นก็สามารถฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ส่งผลให้ผลตอบแทนของตลาดหุ้นเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 6% ภายหลังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว 12 เดือน

ขณะที่ปัจจัยบวกภายในประเทศสหรัฐฯ ทั้งจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ระดับ 2.5% ในปี 2559 การขยายตัวของภาคการบริโภคภายในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง การปรับค่าจ้างสูงขึ้นโดยคาดว่าค่าจ้างจะเติบโต 3-3.5% และตลาดที่อยู่อาศัยยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งหมดเป็นปัจจัยบวกส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลกซึ่งสามารถผลักดันหุ้นกลุ่มภาคบริการให้ปรับตัวดีขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้คาดการณ์ว่ายังมีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐฯต่อไป

อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงอยู่บ้าง เนื่องจากนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกขยายตัว 3.3% แต่ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ส่งผลโดยตรงต่อหุ้นสหรัฐฯ ที่เน้นการส่งออก นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องในปี 2559 ยังคงส่งผลลบต่อภาคการส่งออกและภาคอุตสาหกรรมการผลิต โดยบริษัทที่พึ่งพิงตลาดต่างประเทศจะได้รับผลกระทบโดยตรง รวมถึงราคาน้ำมันที่ยังไม่ฟื้นตัว จากอุปทานน้ำมันที่ยังคงล้นตลาด ส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานมีการปรับลดประมาณการรายได้และกำไรต่อหุ้นลง

นายสมิทธ์ กล่าวว่า บริษัทฯ เตรียมที่จะจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยูเอส (SCBS&P500) เป็นครั้งที่ 5 สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2557 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2558 โดยกำหนดอัตราจ่ายปันผล 0.15 บาทต่อหน่วย ในวันที่ 24 ธันวาคม 2558 นี้

สำหรับกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นยูเอส มีนโยบายเน้นลงทุนในกองทุนหลัก SPDR S&P 500 ETF Trust ซึ่งเป็นกองทุนที่บริหารจัดการโดย State Street Global Advisors จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี S&P 500

Back to top button