บลจ.กรุงไทยแนะลงทุนกองKT-EUROจับโอกาสศก.กิจจีนซบหุ้นไทยผันผวน
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ประเทศจีนประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ และปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิหร่าน กับซาอุดิอาระเบีย บลจ.กรุงไทย ได้แสวงหาช่องทางการลงทุน ที่มีดอกาสสร้างผลตอบแทนในช่วงเวลานี้
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ประเทศจีนประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ และปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิหร่าน กับซาอุดิอาระเบีย บลจ.กรุงไทย ได้แสวงหาช่องทางการลงทุน ที่มีดอกาสสร้างผลตอบแทนในช่วงเวลานี้
โดยเสนอกองทุนเปิดเคแทม ยูโรเปี้ยน อิควิตี้ ฟันด์ ( KT-EURO ) เนื่องจาก เศรษฐกิจยูโรโซนในปีนี้ มีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจนยิ่งขึ้น ความเชื่อมั่นดีขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลดีต่อการบริโภคของภาคเอกชน ค่าเงินยูโรอ่อน ทำให้ดุลการค้าดีขึ้นมาก การจ้างงานดีขึ้น อัตราการว่างงานลดลงต่อเนื่อง ภาคการธนาคารเริ่มมีการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อัตราเงินเฟ้อเริ่มปรับตัวสูงขึ้นจากอุปสงค์ที่ดีขึ้น คาดว่าเศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้น เป็น 1.6% ในปี 2559 จาก 1.5% ในปี 2558 ส่วน ECB น่าจะดำเนินมาตรการ QE ต่อเนื่องจนครบตามกำหนดในเดือน มี.ค. 2559 ทำให้นโยบายการเงินในยูโรโซนยังคงมีแนวโน้มผ่อนคลายต่อเนื่อง
ขณะที่การปฏิรูปโครงสร้างภายในของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคส่งผลให้บริษัทจดทะเบียนสามารถเพิ่มสัดส่วนของกำไร (Profit Margin)?ได้ ความเสี่ยงที่ต้องจับตาคือปัญหาการเมือง การเลือกตั้งในบางประเทศ รวมถึงวิกฤติผู้อพยพลี้ภัยที่เข้ามาในทวีปยุโรปอย่างต่อเนื่อง
กองทุน KT-EURO เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของ Invesco Continental European Small Cap Equity Fund และเน้นลงทุนหุ้นกลุ่มประเทศในแถบยูโรโซน ไม่รวมอังกฤษ ประเภทหุ้นขนาดกลาง และขนาดเล็ก โดยปัจจุบันกองทุนปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 90% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน สำหรับผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2558 ย้อนหลัง 9 เดือน อยู่ที่ 4.16 % และ1 ปี อยู่ที่ 20.64 % เมื่อเทียบกับ Benchmark ย้อนหลัง 9 เดือน อยู่ที่ 14.55% และ1 ปี อยู่ที่ 19.10 % ซึ่งนับว่ากองทุน KT-EURO มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี เมื่อเทียบกับการลงทุนในประเทศ และการลงทุนในภูมิภาคอื่นๆ นอกจากนี้ ในปีนี ก็ยังมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดี อย่างต่อเนื่องอีกด้วย
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการล็อคผลตอบแทนจากการลงทุน ในช่วงนี้ บริษัอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่าย กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 78 ( KTFF78 ) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 19 มกราคม 2559 อายุ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ประเภท MTN ที่ออกโดย Banco Latinoamericano de Comercio Exterior , S.A. , ออกโดย Agricultural Bank of CHINA , ออกโดย Industrial and Commercial Bank of CHINA ( Asia ) Ltd. และ เงินฝากประจำ Abu Dhabi Commercial Bank PJSC และAhli Bank QSC ในสัดส่วนสถาบันการเงินละ 20 % ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ผลตอบแทนประมาณ 1.75% ต่อปี
สำหรับแนวโน้ม อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศ อายุตั้งแต่ 2 ปี ขึ้นไปมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแรงขายทำกำไรในพันธบัตรระยะกลางถึงยาว เพื่อลดความเสี่ยงจากการไหลออกของเงินลงทุนหลังค่าเงินดอลล่าร์ มีการแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับตลาดเพิ่มความระมัดระวังก่อนการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุคงเหลือ 10 ปี (LB25DA) ในช่วงกลางสัปดาห์ ในขณะที่ตลาดหุ้นจีนมีการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาบางส่วน สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้จะเป็นแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทิศทางของการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนระหว่างประเทศ และการเคลื่อนไหวของตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศ
ลดลง 19 bps. มาอยู่ที่ 1.57% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง 14 bps.มาอยู่ที่ 2.13% ต่อปี สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้จะเป็นเศรษฐกิจและตลาดหุ้นจีน แนวโน้มราคาน้ำมันโลก และสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ