บลจ.ทหารไทย ออกกอง Japan Active Equityเน้นลงทุนหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่มีการเติบโตสูง

นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิด ขายกองทุนเปิดทหารไทย Japan Active Equity ระหว่างวันที่ 23-26 ก.พ.นี้ โดยมี นโยบายลงทุนในกองทุน JPMorgan Fund -Japan Equity Fund ที่บริหารโดย JPMorgan Asset Management จากการมองตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นให้ผลตอบแทนที่ดี ปัจจุบันราคาหุ้นญี่ปุ่นถูกมีสัดส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) ต่ำเพียง 16 เท่า เมื่อเทียบกับ ตลาดหุ้นอื่นๆ ขณะรัฐบาลญี่ปุ่นมีนโยบายให้กองทุนบำเหน็จบำนาญราชการเพิ่มสัดส่วนลงทุนในหุ้นเป็น 25% จากเดิม 16% และใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบ

ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มขนาดกลาง-เล็ก ที่มีการเติบโตสูง และได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลญี่ปุ่น ให้น้ำหนักหุ้นในกลุ่ม ค้าปลีก ท่องเที่ยว ไอที รวมไปถึงการเลือกลงทุนในหุ้นกลุ่มสุขภาพสอดรับความเป็นสังคมผู้สูงอายุ
นางเชอรีน บาน หัวหน้ากลุ่มตราสารทุนประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก บลจ.เจพีมอร์แกน (JPMorgan Asset Management) กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลญี่ปุ่นทำได้ดี ทั้งในเรื่องธรรมาภิบาลของบริษัทจดทะเบียนในญี่ปุ่น เงินเยนที่อ่อนค่าลงเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น การท่องเที่ยวที่เติบโตสูงขึ้นและค่าแรงที่มีปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งนโยบายที่กระตุ้นเศรษฐกิจนี้จะดำเนินต่อไปจะเห็นได้จากการลดอัตรา ดอกเบี้ยให้ติบลบ และเป้าหมาย ที่จะทำให้เงินเฟ้อขึ้นไปถึง 2%

ขณะเดียวกันตั้งแต่ปี 2554 ระดับผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) เพิ่มขึ้นมา 3 เท่า มาอยู่ที่ระดับ 9% แต่ก็ยังต่ำกว่า ROE ของบริษัทในหุ้นจีน อินเดีย รัสเซีย ซึ่งแม้จะมีธรรมาภิบาลที่ต่ำ จึงเห็นได้ว่าบริษัทญี่ปุ่นยังมีศักยภาพในการเติบโตได้อีก นอกจากนี้เงินเยนที่อ่อนค่าลงเป็นผลดีต่อการส่งออกของญี่ปุ่นและการท่อง เที่ยวที่มีแนวโน้มเติบโตดีต่อไป

“ปัจจัยที่รัฐบาลญี่ปุ่นอยากเห็นคือระดับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นไปถึง 2% แต่ยังไม่ถึงเพราะเงินเยนแข็งค่าขึ้นและราคาน้ำมันที่ต่ำ แต่ราคาน้ำมันที่ต่ำเป็นปัจจัยหนุนให้ภาครัฐมีการเติบโตต่อไป ดังนั้นในช่วงที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลงมา 15% นี้ จึงมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการเข้าไปลงทุน ซึ่งเป็นจังหวะที่ดีในช่วงเวลาที่เหมาะและระดับราคา อย่างไรก็ตามตลาดยังมีความผันผวนบ้างจากหุ้นที่ไม่ได้มีการเติบโตไปตามวงจร เศรษฐกิจ ซึ่งหุ้นเหล่านี้ทำให้ตลาดปรับตัว ลงได้ อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้ปัจจัยบวกจากการท่องเที่ยวที่เติบโต บริษัทจดทะเบียนมีผลกำไรดีและจ่ายผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นได้ดี ระดับราคาหุ้นตอนนี้ถือว่ามีความเหมาะสมในการเข้าไปลงทุน แม้ว่าจะยังมีความเสี่ยงที่มาจากเศรษฐกิจโลกที่เป็นขาลง”