บลจ.กสิกรไทย ส่งกองไฮยิลด์บอนด์ 6 เดือนชูผลตอบแทนสูง 2.10% ต่อปี ขายถึง 7 เม.ย.
บลจ.กสิกรไทย ส่งกองไฮยิลด์บอนด์ 6 เดือน ชูผลตอบแทนสูง 2.10% ต่อปี ขาย 4-7 เม.ย.
นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 4-7 เมษายน 2559 บลจ.กสิกรไทยจะเสนอขายกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน ซีเอส (KEFF6MCS) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.10% ต่อปี โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี
สำหรับภาวะตลาดตราสารหนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยระยะสั้นอายุระหว่าง 3 เดือน – 1 ปี อยู่ที่ 1.37% ถึง 1.38% ต่อปี โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 0.01% ต่อปี ทั้งนี้มุมมองของบลจ.กสิกรไทยคาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี ไปอีกสักระยะหนึ่ง เนื่องจากมองว่าระดับอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันมีความผ่อนปรนเพียงพอแล้ว และเอื้อต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทยและเหมาะสมต่อการดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงิน
ทั้งนี้ ปัจจัยเสี่ยงที่กนง.กำลังติดตาม คือ ความเสี่ยงต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและเอเชียที่อาจส่งผลกระทบในวงกว้าง ขณะที่การดำเนินนโยบายทางการเงินที่แตกต่างกันของธนาคารกลางหลักๆ หลายแห่ง อาจส่งผลต่อกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายรวมถึงทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นในบางช่วง
อย่างไรก็ตาม กนง.ยังไม่ปิดโอกาสการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต หากตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่ออกมายังไม่สามารถฟื้นตัวได้ตามที่คาด อาทิ ตัวเลขการส่งออกที่อาจเติบโตได้น้อยกว่าที่คาดซึ่งอาจส่งผลต่อเนื่องไปถึงภาคการใช้จ่ายและการลงทุนภายในประเทศได้ ดังนั้น สำหรับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ไม่มากนัก บลจ.กสิกรไทยขอนำเสนอกองทุนตราสารหนี้ประเภทกำหนดอายุโครงการซึ่งบริษัทได้เปิดเสนอขายในสัปดาห์นี้ ไว้เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการแหล่งพักเงินในช่วงระยะเวลาประมาณ 6 เดือน และยังคงให้โอกาสรับผลตอบแทนในอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Fixed Term Fund) ของบลจ.กสิกรไทย ซึ่งเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนเลือกได้กองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค เอ็มพลัส (K-MPLUS) ซึ่งอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมตราสารหนี้ ของบลจ.กสิกรไทย
สำหรับตราสารหนี้ที่กองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน ซีเอส (KEFF6MCS) เบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก Garanti Bank, ประเทศตุรกี, เงินฝาก Union National Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, เงินฝาก First Gulf Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเงินฝาก Commercial Bank of Qatar, ประเทศกาตาร์ นอกจากนี้ยังลงทุนเพิ่มเติมในตราสารหนี้ Yapi Kredi Bankasi A.S., ประเทศตุรกี โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีสินทรัพย์ในการลงทุนสูงและสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน โดยผู้ลงทุนต้องลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาท