บลจ.กรุงศรี เปิดขายกองทุนตราสารหนี้ตปท. คาดผลตอบแทน 1.90% ขายถึง 25 เม.ย.นี้

น.ส.ศิริพร สินาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี เปิดเผยว่า บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศเอไอ3M19 (KFFAI3M19) อายุประมาณ 3 เดือน ระหว่างวันที่ 19 – 25  เม.ย. 59  เหมาะกับนักลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้ที่มีเงินลงทุนสูง เงินลงทุนขั้นต่ำ 510,000 บาท ประมาณการผลตอบแทน 1.90% ต่อปี  

โดยกองทุน KFFAI3M19 มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศหรือเงินฝาก ได้แก่ เงินฝากธนาคาร First Gulf Bank (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) สัดส่วนการลงทุน 20%   เงินฝากธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) สัดส่วนการลงทุน 20%   ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร ธ.Yapi Ve Kredi Bankasi (ประเทศตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 20% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร ธ.Turkiye Vakiflar Bankasi (ประเทศตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 20%   และตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร ธ.Turkiye Isbank Bankasi (ประเทศตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 20%  

ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 1.90% ต่อปี (ประมาณการค่าใช้จ่ายของกองทุนที่ 0.12% ต่อปีของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ) และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน  เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป 

“กองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศเอไอ3M19 (KFFAI3M19)  เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้เหมาะกับนักลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้ที่มีเงินลงทุนสูง  ที่ต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากและสามารถลงทุนได้เป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือน” น.ส.ศิริพร กล่าว

สำหรับภาวะตลาดตราสารหนี้โลกนั้น  อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ภาครัฐของสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยที่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะยาวเพิ่มขึ้นมากกว่าอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะสั้น  ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.00 – 0.08% โดยที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวเพิ่มขึ้นมากกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้น

โดยกองทุน KFFAI3M19 เป็นกองทุนสำหรับผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย และผู้มีเงินลงทุนสูงเท่านั้น กองทุนนี้สามารถลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Non-Investment grade) หรือที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Bond) ในอัตราส่วนที่มากกว่ากองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร  ซึ่งส่งผลให้ผู้ลงทุนขาดทุนจากการลงทุนบางส่วนหรือทั้งจำนวนได้  และในการขายคืนหน่วยลงทุนอาจไม่ได้รับเงินคืนตามที่ระบุไว้ในโครงการจัดกา