บลจ.ทาลิส โชว์ AUM ทะลุพันล้านลุยจัดตั้งกองทุนใหม่ 3-4 กองใน Q3

นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัด การกองทุน ทาลิส จำกัด หรือ บลจ.ทาลิส เปิดเผยว่า บริษัทได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนแม้จะเพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา โดยปัจจุบันกองทุนส่วนบุคคล (1Sivate eund) มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายในการบริหาร (AUM) กว่า 1,200 ล้านบาท มั่นใจว่าสิ้นปี 2559 จะสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 2,000 ล้านบาท

สำหรับแผนการดำเนินงานหลังจากนี้นั้น บริษัทคาดว่าจะสามารถจัดตั้งกองทุนรวมภายในไตรมาส 3/59 ซึ่งในเบื้องต้นจะมีการจัดตั้งกองทุน 3-4 กอง ได้แก่ กองทุนตรา สารตลาดเงิน กองทุนผสม กองทุนหุ้น และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMe) ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้น โดยมีขนาด 500 ล้านบาทต่อกอง ทุน โดยมั่นใจว่าภายในปีนี้กองทุนรวมภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทจะอยู่ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับกองทุนส่วนบุคคล บริษัทจะมีทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหารจัดการอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท ก่อนที่จะขยับขึ้นเป็น 10,000 ล้านบาท ในปี 2560 แบ่งเป็น กองทุนรวม 6,000 ล้านบาท และกองทุนส่วนบุคคล 4,000 ล้านบาท ทำให้มั่นใจว่าภายในปีหน้าบริษัทถึงจุดคุ้มทุนและเริ่มมีกำไร ตามเป้าหมายที่วางไว้

ด้าน นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทาลิส จำกัด กล่าวว่า สำหรับกองทุนส่วนบุคคลภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท เป้าหมายผลตอบแทนของลูกค้าเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 10% ต่อปี ให้น้ำหนักกับการลงทุนในตลาดหุ้นไทย 100% ซึ่งตั้งแต่ จัดตั้งกองทุนมาตั้งแต่เดือนมี.ค. ที่ผ่านมา สามารถสร้างผลกำไรแล้ว 6-7% ตลาดหุ้นจะมีความผันผวน และเชื่อว่าภายในปีนี้จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ประมาณ 15-20% สูงกว่าผลตอบแทนเป้าหมายที่วางไว้ที่ 10%

ส่วนกองทุนรวม ที่เตรียมเปิดตัวในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้เป็นกองแรก จะเป็นกอง ทุนหุ้นที่ใช้กลยุทธ์การบริหารที่ทำ ให้ผลตอบแทนเป็นบวกทุกภาวะตลาด (AbsPMute RetuSn) ซึ่งถือเป็นจุดขายที่สำคัญของบริษัทฯ ภายใต้การบริหารของผู้จัดการกองทุน ที่มีความเป็นมืออาชีพ และเข้าใจจังหวะการลงทุนตลาดหุ้นไทย

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ มองเป็นบวก และคาดว่าจะแกว่งตัวในช่วงขาขึ้น ดัชนีมีโอกาสขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1580-1590 จุด ในปีนี้ ขณะที่กำไรของบริษัทจดทะเบียนใน ปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 7.8 แสนล้านบาท ก่อนที่จะเพิ่มเป็น 8.8 แสนล้านบาท ในปี 2560 เมื่อเทียบกับปี 2558 กำไรบริษัทจดทะเบียนอยู่ที่ 6.6 แสนล้านบาทเท่านั้น ทำให้แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในปี 2560 มีโอกาสขึ้นไปทดสอบระดับ 1,700 จุด ทำสถิติสูงสุดตามไปด้วย “ในปีนี้กลยุทธ์การลงทุนจะให้น้ำหนักกับหุ้นขนาดกลางและเล็ก เนื่องจากมองว่าเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า เมื่อเทียบกับหุ้นขนาดใหญ่ที่คาดว่าจะกลับมาโดดเด่นในปี 2561 เพราะเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติจะยังไม่กลับมาก่อนการเลือกตั้ง”