บลจ.วรรณ ออกกองตราสารหนี้ 3 เดือนชูผลตอบแทน 1.40% ขายถึง 3 มิ.ย.นี้

บลจ.วรรณ ออกกองตราสารหนี้ 3 เดือน ชูผลตอบแทน 1.40% ขายถึง 3 มิ.ย.นี้


นายมณฑล จุนชยะ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนวรรณ หรือ บลจ.วรรณ เปิดเผยว่า ระหว่างวันนี้ถึง 3 มิ.ย.นี้ บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนเปิดวรรณตราสารหนี้ 3M2 (1FIX-3M2)  ซึ่งเป็นกองทุนประเภท Rollover รอบการลงทุนนี้มีอายุโครงการ 3 เดือน เน้นลงทุนในตราสารหนี้ในและต่างประเทศ ได้แก่ เงินฝากต่างประเทศและตั๋วแลกเงินในประเทศ โดยประมาณการณ์ผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายประมาณ 1.40% ต่อปี

สำหรับบรรยากาศการซื้อขายของตลาดตราสารหนี้ บริษัทคาดว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยในสัปดาห์นี้ มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นในกรอบแคบๆ ซึ่งอาจมีความผันผวนของตราสารระยะยาวบ้างและอาจมีแรงซื้อเข้ามาจากนักลงทุนต่างชาติ หลังจากที่มีการขายทำกำไรออกไปในช่วงก่อนหน้า อีกทั้ง นักลงทุนยังคงรอตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ ซึ่งจะทยอยประกาศออกมา

โดยการลงทุนตราสารหนี้ประเภทที่ให้ผลตอบแทนที่คาดการณ์ได้ จากการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นและถือครบอายุ ยังคงเป็นทางเลือกและป้องกันการเสียโอกาสในการลงทุนช่วงที่ตลาดคาดหวังปัจจัยบวกใหม่สนับสนุน

ทั้งนี้ บริษัทคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 14-15 มิ.ย.โดยมองว่ามีโอกาสพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือนก.ค.นี้ เนื่องจากยังคงรอดูตัวเลขสำคัญหลังจากที่ตัวเลขประมาณการ GDP ครั้งที่ 2 ของจีดีพี ประจำไตรมาส 1/59 ขยายตัวต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ 0.8% เทียบจากที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการขยายตัวที่ระดับ 0.9% ประกอบกับ คาดว่า เฟดน่าจะนำปัจจัยเรื่องการทำประชามติของประเทศอังกฤษที่จะออกจากสมาชิกยูโร ในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ เข้าร่วมพิจารณาด้วย เนื่องจากหากมีสัญญาณเชิงลบก็อาจจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของภาคเศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซน

สำหรับบรรยากาศการลงทุนในช่วงนี้ยังคงรอปัจจัยใหม่หนุนความมั่นใจ โดยหลักๆมองว่าถ้อยแถลงของประธานเฟดสหรัฐ เป็นปัจจัยที่น่าติดตามมากกว่าความกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไหน ซึ่งครั้งล่าสุดเฟดก็ย้ำท่าทีว่าอาจจะมีการประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งก็ทำให้ตลาดคาดเดาต่อไปว่าอาจจะเป็นการประชุมย่อยของเฟดในเดือน ก.ค.ที่จะอาจมีการพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทั้งนี้มองว่า หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในรอบนี้ จะสามารถสะท้อนให้เห็นสัญญาณเศรษฐกิจที่ดีของสหรัฐที่ฟื้นตัวขึ้น และอาจเชื่อมโยงให้เห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่อาจจะเริ่มตามมาได้

อย่างไรก็ตาม หากมองในตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ บริษัทมองกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ระดับ 1,400 จุด–1,420 จุด โดยรวมอาจจะดูไม่หวือหวามากนัก แต่บริษัทมองว่าจะยังมีบางอุตสาหกรรมที่สามารถผลักดันตลาดในช่วงนี้ได้ อาทิ กลุ่มโรงพยาบาล ธนาคารพาณิชย์ รับเหมาก่อสร้างและหุ้นขนาดกลางที่เริ่มฟื้นตัว

Back to top button