บลจ.ทิสโก้ออกกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นมูลค่า 2 พันลบ. เสนอขายวันนี้ – 4 ก.ค.59
บลจ.ทิสโก้ออกกองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส ตราสารหนี้ระยะสั้น เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในพันธบัตรระยะสั้นของสหรัฐฯโดยกองทุนมีมูลค่า 2 พันลบ. เสนอขายครั้งแรก 27 มิถุนายน-4 กรกฎาคมนี้
นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด หรือ บลจ.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ทิสโก้ออกกองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส ตราสารหนี้ระยะสั้น (TUSFIX) เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในพันธบัตรระยะสั้นของสหรัฐ ซึ่ง บลจ.ทิสโก้มีมุมมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงในเชิงของเครดิต เนื่องจากเป็นพันธบัตรของสหรัฐที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตอยู่ในระดับสูงถึง Aaa โดย Moody’s และกองทุนจะเน้นลงทุนเฉพาะพันธบัตรสหรัฐฯ ที่มีอายุไม่เกิน 3 เดือน ทำให้ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นอยู่ในระดับที่ต่ำ
นอกจากนี้กองทุนไม่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงค่าเงินทำให้ราคา NAV ของกองทุนจะเปลี่ยนไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับเงินบาท จึงเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงไปยังเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ และมีมุมมองที่ดีต่อค่าเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินบาท โดยกองทุนจะเสนอขายครั้งแรก 27 มิถุนายน-4 กรกฎาคมนี้
“แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะมีท่าทีชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่ทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ จะยังคงเป็นขาขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวขึ้นมาอย่างแข็งแกร่ง อัตราการว่างงานกลับมาอยู่ในระดับต่ำกว่า 5% ซึ่งถือเป็นระดับปกติ เฟดจึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องคงดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปกติ ขณะที่ประเทศอื่น ๆ โดยส่วนใหญ่ยังคงดำเนินนโยบายผ่อนคลาย ทิศทางดอกเบี้ยยังเป็นขาลงอยู่ ทำให้ความแตกต่างของนโยบายการเงินของสหรัฐฯ กับประเทศอื่นๆ มีมากขึ้น และย่อมส่งผลต่อเม็ดเงินไหลกลับเข้าลงทุนในสหรัฐฯ และส่งผลให้ค่าเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเงินสกุลอื่น ๆ รวมทั้งค่าเงินบาท ดังนั้น การลงทุนในพันธบัตรสหรัฐฯ นอกจากได้กระจายความเสี่ยงจากเงินบาทแล้ว ยังมีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนเพิ่มจากการแข็งค่าขึ้นของเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับเงินบาท”นายสาห์รัช กล่าว
ทั้งนี้ กองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส ตราสารหนี้ระยะสั้น มีนโยบายลงทุนในกองทุน SPDR Barclays 1-3 Month T-Bill ETF (กองทุนหลัก) โดยมีวัตถุประสงค์ในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนของกองทุน (ก่อนหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายทั้งหมด) ให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี Barclays 1-3 Month U.S. Treasury Bill ซึ่งเป็นดัชนีสำหรับการลงทุนในพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 1-3 เดือน โดยกองทุนมีมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 5,000 บาท
