4 บลจ. เชียร์ลงทุนกองอสังหาฯ-อินฟราฟันด์-รีทผลตอบแทนสม่ำเสมอ-หนีความผันผวนตลาดหุ้น
บลจ. ต่างเชียร์ลงทุนกองอสังหาฯ-อินฟราฟันด์-รีท ผลตอบแทนสม่ำเสมอ-หนีความผันผวนตลาดหุ้น
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ บลจ.กรุงไทย เปิดเผยว่า กองทุนอสังหาริมทรัพย์ อินฟราฟันด์ และรีท ถือว่าเป็นกองทุนที่มีความผันผวนน้อยเมื่อเทียบกับตลาดหุ้น แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะอยู่ในช่วงซบเซา ซึ่งที่ผ่านมากองทุนดังกล่าวเป็นที่น่าสนใจอย่างมากแก่นักลงทุน เนื่องจากได้รับผลตอบแทนสม่ำเสมอ และสามารถคาดการณ์ผลตอบแทนในรูปอัตราปันผลได้ในแต่ละปี ขณะที่ราคาแม้ว่าปัจจุบันจะปรับตัวขึ้นค่อนข้างสูง แต่เชื่อว่าผู้บริหารกองทุนมีความตั้งใจที่จะสร้างผลตอบแทนให้อยู่ในระดับสูงสุด
ทั้งนี้ การเลือกสินทรัพย์ในกองทุนที่เข้าลงทุน ควรมองสินทรัพย์ที่มีผู้เช่าจำนวนมากเป็นอันดับแรกก่อน เช่น ห้างสรรพสินค้า รองลงมาให้ดูที่การบริหารจัดการของกองทุนนั้นๆ ว่าได้มาตรฐานหรือไม่ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดนักลงทุนผู้ที่เป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้นๆ จะต้องเข้าไปดูแล หรือตรวจสอบคุณภาพของสินทรัพย์ว่ายังอยู่ในสภาพดีหรือไม่
ส่วน นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด หรือ บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า การลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์มีความน่าสนใจจากความผันผวนที่น้อยกว่าตลาดค่อนข้างมาก โดยจากสถิติในช่วงปีที่ผ่านมาแม้ว่าจะได้รับแรงกดดันทั้งในประเทศและต่างประเทศ ก็สามารถสร้างผลตอบแทนได้เฉลี่ย 8-9% ต่อปี โดยมองว่ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (รีท) มีความน่าสนใจ เนื่องจากให้ผลตอบแทนในระยะยาวที่ค่อนข้างสูง แต่ต้องดูว่าเป็นประเภทเช่าหรือประเภทซื้อ และดูผลตอบแทนย้อนหลังเพื่อประกอบการตัดสินใจในการลงทุน
ขณะที่ นายสมิทธ์ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า การลงทุนในช่วงที่ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ ควรจะลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่มีความผันผวนต่ำ เช่น กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ,อินฟราฟันด์ และรีท ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าพันธบัตร และสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยสินทรัพย์ก็มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ทั่ง โรงแรม ออฟฟิต และห้างสรรพสินค้า เป็นต้น ที่มีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ มองว่ากองทุนดังกล่าวยังมีโอกาสไปได้ต่อจากปัจจัยเงินทุนเคลื่อนย้าย แต่สิ่งที่นักลงทุนควรศึกษาอย่างมากเกี่ยวกับการลงทุน คือการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคที่อาจจะส่งผลต่อสินทรัพย์แต่ละประเภท เช่น ห้างสรรพสินค้า จากการเปลี่ยนผู้เช่าพื้นที่ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคมากขึ้น และกระแสการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ หรือ กระแสฟินเทค รวมไปถึงข่าวสารจากทั่วโลก อย่างกรณี Brexit ที่อาจจะกระทบต่ออัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวลดลง
ด้าน นายธนวัฒน์ ปัจฉิมกุล ผู้อำนวยการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนต่างประเทศ บริษัท หลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ (ประเทศไทย) เชื่อว่าการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ อินฟราฟันด์ และรีท จะยังได้รับความน่าสนใจอย่างต่อเนื่องจากภาวะนโยบายดอกเบี้ยต่ำจนถึงติดลบในหลายประเทศ ซึ่งทำให้การลงทุนในรูปแบบพันธบัตรแทบจะไม่มีผลตอบแทน ส่งผลให้สถาบันต่างๆ หรือผู้จัดการกองทุน เริ่มหาการลงทุนรูปแบบอื่นมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจะต้องศึกษาหาข้อมูลในการลงทุนสินทรัพย์อย่างถี่ถ้วน โดยเฉพาะ Trustee ขณะเดียวกันยังมองแนวโน้มการลงทุนในสินทรัพย์ที่ยังไปได้ต่อ เช่น กองรีทที่เกี่ยวกับโลจิสติกส์ ถือว่ามีแนวโน้มค่อนข้างดี ซึ่งนักลงทุนจะต้องพิจารณาว่าสินทรัพย์ดังกล่าวจะมีการเติบโตได้จากอะไร หากเป็นการเติบโตจากการซื้อสินทรัพย์เข้ามาเพิ่มเรื่อยๆ ก็น่าจะเป็นโอกาสในการลงทุนที่จะสร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการบริหารจัดการกองทุน เช่น อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า ได้รับการดูแล หรือมีการปรับปรุง รีโนเวท สม่ำเสมอหรือไม่ เพราะจะส่งผลต่อค่าเช่าที่สามารถปรับเพิ่มขึ้น รวมถึงการรีไฟแนนซ์ด้วยการขายสินทรัพย์เก่าออกไป และนำเงินมาลดหนี้
พร้อมกันนี้ยังมองไปถึงกลุ่ม Health Care ที่มีความเสี่ยงต่ำ และการลงทุนในต่างประเทศ เช่น ในประเทศอินเดีย ที่ขณะนี้เศรษฐกิจเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยเฉพาะสกุลเงินรูเปียะห์ ที่ค่อนข้างนิ่งเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งมีความน่าสนใจในสินทรัพย์ที่เป็นอาคารสำนักงานที่มีการเติบโตสอดรับไปกับการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ระดับ 7%