TMB เปิดประกันชีวิตรูปแบบใหม่ควบคู่การลงทุน
TMB เปิดประกันชีวิตรูปแบบใหม่ควบคู่การลงทุน “ทีเอ็มบี เวลธ์ตี้ ลิงค์” หรือ ยูนิตลิงค์ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย
ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB เปิดตัวผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน รูปแบบใหม่ “ทีเอ็มบี เวลธ์ตี้ ลิงค์” หรือ ยูนิตลิงค์ เจาะกลุ่มลูกค้าที่มองหาความมั่นคงและมั่งคั่งในชีวิต ด้วยจุดเด่นที่ให้ความคุ้มครองชีวิตสูงมากเมื่อเทียบกับประกันชีวิตทั่วไป เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนรวมคุณภาพที่คัดสรรแล้วจากหลากหลายบลจ.ชั้นนำและดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงสามารถเลือกกำหนด ปรับเปลี่ยนสัดส่วนความคุ้มครองชีวิตและสัดส่วนการลงทุนได้ตามใจในแต่ละช่วงวัย มั่นใจครองส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นเป็น 10% ในอีก 5 ปี
นางสาวศันสนีย์ ปางมณี หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร บริหารกลุ่มลูกค้าธนบดีและธนบดีธนกิจ ทีเอ็มบี เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ทีเอ็มบี ได้ยึดแนวคิด Make THE Difference เปลี่ยน เพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น เป็นหัวใจหลักในการดำเนินงาน เพื่อส่งเสริมให้ลูกค้าใช้ชีวิตได้เต็มที่
โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการทางการเงินที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ภายใต้แนวคิด “Need-Based” กับ “Simple & Easy” ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างตรงจุด ซึ่งธนาคารก็จะมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่จะช่วยให้ลูกค้าได้ใช้ชีวิตได้เต็มที่ในแบบที่ต้องการต่อไป
ล่าสุดได้การออกผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบคู่ไปกับการลงทุนรูปแบบใหม่ ที่เรียกว่า “ทีเอ็มบี เวลธ์ตี้ ลิงค์” หรือ ยูนิตลิงค์ ออกแบบขึ้นเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความสนใจของลูกค้า 4 กลุ่มตามช่วงวัยที่แตกต่างกัน ซึ่งแต่ละแพ็คเกจก็จะมีการแบ่งสัดส่วนความคุ้มครองชีวิต และสัดส่วนการลงทุนที่แตกต่างกันตามความเหมาะสมของกลุ่มลูกค้ากลุ่มนั้นๆ โดยอายุรับประกันตั้งแต่ 30 ปี ถึง 70 ปี ระยะเวลาคุ้มครองถึง อายุ 99 ปี
สำหรับ ทีเอ็มบี เวลธ์ตี้ ลิงค์ (ยูนิตลิงค์) เป็นผลิตภัณฑ์ ที่รวมเอาข้อดีของประกันชีวิต และกองทุนรวมมาไว้ด้วยกัน มีความยืดหยุ่นสูง โดยจุดเด่นที่ทำให้ ประกันชีวิตควบการลงทุนที่ ทีเอ็มบี แตกต่างจากตลาด คือ การทำให้ยูนิตลิงค์เป็นเรื่องเข้าใจง่าย โดยการให้ผลประโยชน์ของผลิตภัณฑ์สอดคล้องกับช่วงอายุของแต่ละคน เพราะทีเอ็มบีเชื่อว่าบุคคลแต่ละช่วงวัยล้วนมีความสนใจและความจำเป็นที่ต่างกัน
ดังนั้นทีเอ็มบีจึงได้ออกแบบสัดส่วนของความคุ้มครองและการลงทุนให้เหมาะสมไว้ให้สำหรับกลุ่มลูกค้า 4 ช่วงวัย ได้แก่ ช่วงอายุ 30-40 ปี โสด ยังไม่มีภาระมาก ต้องการเริ่มต้นสะสมความมั่งคั่ง ดังนั้นเหมาะกับสัดส่วนที่เน้นการลงทุนมากกว่าความคุ้มครองชีวิต
ช่วงอายุ 36-45 ปี กลุ่มคนมีครอบครัวแล้ว ก็ต้องการวางแผนรอบด้านเพื่อครอบครัว สร้างความอุ่นใจหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเตรียมพร้อมทุนการศึกษาให้ลูกในอนาคต กลุ่มนี้เหมาะกับสัดส่วนที่ให้ความสำคัญทั้งความคุ้มครองและลงทุน
ส่วนช่วงอายุ 45 ปีขึ้นไป เป็นช่วงเริ่มวางแผนเกษียณ ต้องการรักษาความมั่งคั่งทางการเงินในวัยเกษียณอายุ จึงเหมาะกับการลงทุนเพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูงให้กับตนเอง และสุดท้ายช่วงอายุประมาณ 50 ปีขึ้นไป เจ้าของกิจการต้องการส่งต่อความมั่งคั่งให้ลูกหลานอย่างยั่งยืน เหมาะกับการเน้นการลงทุนมากกว่า เพื่อเพิ่มพูนมรดกให้ลูกหลาน เป็นต้น
ทั้งนี้มั่นใจว่า การแบ่งสัดส่วนความคุ้มครองชีวิต และสัดส่วนการลงทุน ตามแต่ละช่วงชีวิตดังกล่าวจะช่วยให้ลูกค้าได้รับผลประโยชน์ได้อย่างเต็มที่มากขึ้น และมั่นใจว่าจากผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการออกแบบออกมาได้ตรงกับความต้องการของลูกค้าเช่นนี้ จะทำให้เราสามารถเติบโตครองส่วนแบ่งการตลาดได้ถึง 10% ภายในปี 2565 ตามเป้า จากปัจจุบันทีเอ็มบีมีฐานลูกค้าประกันชีวิตอยู่ประมาณ 400,000 ราย
ด้านนายภัทรวุฒิ ทรัพย์ไสวผล หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์ธุรกิจประกัน ทีเอ็มบี ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ผลิตภัณฑ์ยูนิตลิงค์นี้ ทีเอ็มบี ได้ร่วมกับ บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ออกแบบขึ้นเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความสนใจของลูกค้า 4 กลุ่มตามช่วงวัยที่แตกต่างกัน ซึ่งแต่ละแพ็คเกจก็จะมีการแบ่งสัดส่วนความคุ้มครองชีวิต และสัดส่วนการลงทุนที่แตกต่างกันตามความเหมาะสมของกลุ่มลูกค้ากลุ่มนั้นๆ เพราะทีเอ็มบีเข้าใจว่าคนเรามีความสนใจและมีเรื่องที่ควรให้ความสำคัญแตกต่างกันไปตามแต่ละช่วงชีวิต
อย่างไรก็ตามลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนสัดส่วนดังกล่าวได้ภายหลังตามต้องการ ตลอดจนสามารถเลือกสับเปลี่ยนกองทุนได้ตามสถานการณ์ตลาด โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม
ทั้งนี้ ทีเอ็มบี เวลธ์ตี้ ลิงค์ (ยูนิตลิงค์) จะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้หลากหลายและตรงจุด โดยแบบประกันนี้สามารถตอบโจทย์การวางแผนการเงิน ความคุ้มครองชีวิต และการลงทุนได้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่ วัยเริ่มต้นการลงทุนที่อาจจะยอมรับความเสี่ยงได้สูง เพื่อโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดี
รวมถึงวัยสร้างครอบครัวที่เลือกเพิ่มน้ำหนักให้กับความคุ้มครองชีวิตเพื่อเป็นการเพิ่มหลักประกันให้แก่ครอบครัว ไปจนถึงการวางแผนการเงินเพื่อการเกษียณที่อาจจะมุ่งเน้นการลงทุนที่ไม่เสี่ยงมากนัก หรือวัยที่อยากมองหาวิธีการส่งต่อความมั่งคั่งให้ลูกหลานได้อย่างยั่งยืนและวางใจ เป็นต้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางที่ทีเอ็มบีให้ความสำคัญมาโดยตลอด