KOOL เพิ่มทุน 530 ล้านหุ้น แลกซื้อกิจการใหม่ หวังก้าวสู่ธุรกิจการเงิน-อสังหาฯ

KOOL เพิ่มทุน 530 ล้านหุ้น แลกซื้อกิจการใหม่ ด้วยมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท รวม 132.50 ลบ. หวังก้าวสู่ธุรกิจการเงิน-อสังหาฯ


บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KOOL เปิดเผยว่า ณ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 6/2564 เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2564 ได้มีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจาก 180,000,000 บาท เป็น 312,500,000 บาท ด้วยการออกหุ้นสามัญจำนวน 530,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท รวม 132,500,000 บาท

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการชำระค่าตอบแทนการโอนกิจการทั้งหมดของ บริษัท สาทรสินทรัพย์ จำกัด จำนวนไม่เกิน 102,130,000 หุ้น มูลค่า 61,278,000 บาท และซื้อหุ้น บริษัท แคปปิตอล ลิ้งค์ อุดรธานี จำกัด จำนวน 39,998 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1,000 บาท คิดเป็น 99.99% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดจาก นายเกรียงไกร ศิระวณิชการ ซึ่งเข้าข่ายเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์และรายการที่เกี่ยวโยงกัน โดยบริษัทจะชำระค่าตอบแทนจำนวน 102,210,000 บาท ด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ

ด้านบริษัทฯจะนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน 530,000,000 หุ้น โดยราคาเสนอขายไม่ต่ำกว่า 90% ของราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นบริษัทย้อนหลังไม่น้อยกว่า 7 วันทำการติดต่อกัน แต่ไม่เกิน 15 วันทำการติดต่อกันก่อนวันที่บริษัทฯ กำหนดราคาเสนอขาย ซึ่งจะเกิดขึ้นภายหลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าทำรายการ แต่ราคาเสนอขายจะไม่ต่ำกว่า 0.60 บาทต่อหุ้น

โดยบริษัทจะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวให้แก่ บริษัท สาทรสินทรัพย์ จำกัด จำนวนไม่เกิน 102,130,000 หุ้น เพื่อเป็นการชำระค่าตอบแทนการโอนกิจการทั้งหมด มูลค่า 61,278,000 บาท

ขณะที่ นายเกรียงไกร ศิระวณิชการ จำนวนไม่เกิน 170,350,000 หุ้น เพื่อเป็นการชำระค่าหุ้น บริษัท แคปปิตอล ลิ้งค์ อุดรธานีจำกัด จำนวน 39,998 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1,000 บาท คิดเป็น 99.99% มูลค่า 102,210,000 บาท

ส่วนบุคคลในวงจำกัดอื่นที่ไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัทฯ จำนวน 257,520,000 หุ้น และหุ้นส่วนที่เหลือจากการจัดสรรในข้อ 1 และ 2 ก็จะนำมาจัดสรรแก่เพิ่มเติมแก่บุคคลในวงจำกัดด้วย

นอกจากนี้บริษัทฯกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2564 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Meeting) ในวันที่ 6 ส.ค.2564 โดยการทำรายการดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกินวันที่ 8 ต.ค.2564 ภายหลังจากที่ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น

อนึ่ง บริษัท สาทรสินทรัพย์ จำกัด ประกอบธุรกิจลงทุนในบริษัทอื่น โดยมีสินทรัพย์เพียง 1 รายการ คือ หุ้นสามัญ บริษัท แคปปิตอลลิ้งค์ โฮลดิ้ง จำกัด (CLH) ถือหุ้นในสัดส่วน 99.99% โดย CLH ประกอบธุรกิจการเงินและอสังหาริมทรัพย์ภายใต้บริษัทย่อย 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท แคปปิตอล ลิ้งค์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ประกอบกิจการให้คำปรึกษาธุรกิจ และ บริษัท แคปปิตอล ลิ้งค์ ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ประกอบกิจการให้เช่าซื้อและลีสซิ่ง

อีกทั้งยังมีบริษัทร่วมค้า 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท เอช-ดู (ประเทศไทย) จำกัด ประกอบกิจการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ และบริษัท บริหารสินทรัพย์ แคปปิตอล ลิ้งค์ จำกัด ประกอบกิจการบริหารสินทรัพย์

สำหรับสาทรสินทรัพย์ มีนายเกรียงไกร ศิระวณิชการ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่โดยถือหุ้นในสัดส่วนที่ 59.25% และยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท แคปปิตอล ลิ้งค์ อุดรธานี จำกัด ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยถือหุ้น 99.99%

อย่างไรก็ดีการลงทุนในครั้งนี้ บริษัทฯมองว่าเนื่องด้วยธุรกิจจำหน่ายพัดลมไอน้ำ พัดลมไอเย็น ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯมีการแข่งขันรุนแรงทำให้อัตรากำไรลดต่ำลง บริษัทฯจึงประสงค์ที่จะลงทุนในธุรกิจอื่นที่มีอัตรากำไรสูง มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคตเข้าเสริม เพื่อเพิ่มผลกำไรของบริษัทฯให้ดีขึ้น

ทั้งนี้ ธุรกิจของกลุ่มบริษัทแคปปิตอล ลิ้งค์ มีอัตรากำไรและแนวโน้มที่ดีสามารถเติบโตได้หากมีเงินทุนที่เพียงพอ ซึ่งภายหลังจากการทำรายการ บริษัทฯ จะจัดหาเงินทุนเข้ามาให้เพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจใหม่ โดยจะมุ่งเน้นการขยายธุรกิจในส่วนของการให้สินเชื่อเป็นหลัก ขณะเดียวกันบริษัทฯยังคงดำเนินธุรกิจจำหน่ายพัดลมไอน้ำและพัดลมไอเย็น ต่อไป

อย่างไรก็ตาม รายได้หลักของกลุ่มบริษัทภายหลังจากการเข้าทำรายการยังคงมาจากธุรกิจปัจจุบันที่บริษัทฯ ดำเนินการอยู่ ซึ่งยังคงเดินหน้าออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับการปรับปรุงคุณภาพอากาศ ซึ่งบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญ ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด

โดยความร่วมมือกับกลุ่มบริษัทแคปปิตอล ลิ้งค์ เช่น โครงการพัฒนาระบบปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในอาคาร ซึ่งจะสามารถทำให้ไม่มีฝุ่นขนาดเล็กที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย (PM 2.5) ภายในอาคาร, ลดปริมาณคาร์บอไดออกไซด์ และเพิ่มปริมาณออกซิเจนภายในอาคาร, กรองเชื้อโรคในอากาศ และลดปริมาณสารระเหยอินทรีย์ (VOC-Volatile Organic Carbon) เป็นต้น ด้วยระบบนี้จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างความแตกต่างให้แก่อาคารสิ่งปลูกสร้าง โดยเฉพาะอาคารพักอาศัย ซึ่งกลุ่มบริษัทแคปปิตอล ลิ้งค์ มีอสังหาริมทรัพย์ที่พร้อมพัฒนาจำนวนมาก และมีบริษัทที่เกี่ยวข้องประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยเพื่อขายอีก ทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีตลาดรองรับที่แน่นอน

Back to top button