KISS มั่นใจธุรกิจ “สุขภาพ-ความงาม” โต หลังดึง GRAMMY เสริมแกร่ง
KISS ชี้การเข้าถือหุ้นของ GRAMMY จะช่วยสนับสนุนและตอกย้ำความแข็งแกร่งของธุรกิจและเตรียมผลักดันตลาดผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ รวมถึงการพัฒนานวัตกรรม การสร้างแบรนด์ การทำตลาด และการดำเนินกลยุทธ์อินฟลูเอ็นเซอร์ผ่านศิลปินที่มีชื่อเสียง
นางวรวรรณ ไชยกำเนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KISS เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เตรียมผลักดันตลาดผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ ผ่านนวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากภาครัฐเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 และออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในรูปแบบต่างๆ โดยจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังนี้ฟื้นตัวขึ้น และกำลังซื้อผู้บริโภคกลับมาคึกคักมากขึ้น
โดยในช่วงครึ่งปีแรก แม้ตลาดอาจดูซบเซาจากกำลังซื้อหดตัว แต่หลังจากรัฐบาลเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ และเตรียมแผนเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศของจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่ 1 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี และคาดการณ์ว่าหากแผนการฉีดวัคซีนและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นไปตามที่กำหนด น่าจะเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวชัดเจนขึ้น ส่งผลให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยน่าจะดีขึ้นตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY ได้เข้าซื้อหุ้น KISS ผ่านกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมได้แก่ Aurora Asia Holdings Pte. Ltd. หรือ AAH และนางสาวปิยวดี สอนสิงห์ จำนวน 59,940,000 หุ้น หรือคิดเป็นไม่เกิน 9.99% ของหุ้นทั้งหมดของ KISS ในราคาเดียวกับที่เสนอขาย IPO ราคา 9 บาทต่อหุ้น รวมมูลค่าประมาณ 539.46 ล้านบาท ซึ่งเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2564 นับเป็นการตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งการดำเนินงานของ KISS ที่มีศักยภาพเติบโตในอนาคต
“ความร่วมมือระหว่าง KISS กับ GMM เป็นไปตามข้อตกลง โดยบริษัทได้ร่วมทุนกับบริษัท โอ ช้อปปิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ GMM จัดตั้งบริษัท โอทู คิส จำกัด หรือ O2 KISS เพื่อดำเนินธุรกิจ Media Commerce ซึ่งการเข้ามาถือหุ้นของ GMM ทำให้เราผสานจุดแข็งของ KISS และ GMM O Shopping ทั้งการพัฒนานวัตกรรม การสร้างแบรนด์ การทำตลาด และการดำเนินกลยุทธ์อินฟลูเอ็นเซอร์ผ่านศิลปินที่มีชื่อเสียง ภายในเครือข่ายสื่อบันเทิงอย่างกว้างขวาง และมีช่องทางจำหน่ายบนแพลตฟอร์ม TV Home Shopping ของ O Shopping จะช่วยเสริมศักยภาพธุรกิจ รองรับอุตสาหกรรมความงามและสุขภาพที่คาดว่าจะฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง ซึ่งจะสามารถผลักดันให้เกิดการเติบโตตามที่ตั้งใจ” นางวรวรรณ กล่าว