BEC ประเมินปี 64 พลิกกำไร! รับเรทติ้งข่าว-ละครพุ่ง ลุยขายคอนเทนต์ตปท.

BEC ประเมินปี 64 พลิกกำไร! รับเรทติ้งข่าว-ละครพุ่ง หลัง “สรยุทธ” นั่งพิธีกร "เรื่องเล่าเช้านี้" ดึงผู้ชมดูเพียบ พร้อมเดินหน้าขายคอนเทนต์ตปท. เผยรายได้จาก 3Plus ขยายตัวต่อเนื่อง


นายพิริยดิส ชูพึ่งอาตม์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สำนักการเงินและการบัญชี บริษัท บีอีซีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC นำเสนอข้อมูลภาพรวมธุรกิจในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 15 มิ.ย.2564 ว่า ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2564 บริษัทฯ ไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มากนัก เนื่องจากในไตรมาส 4 ปี 2564 บริษัทฯ ได้หุ้นทั้งหมดที่ถืออยู่ในบริษัท เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ส่งผลให้รับรู้ผลขาดทุนลดลง ส่วนธุรกิจโทรทัศน์ได้ปรับเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์เพื่อส่งขายให้กับแพลตฟอร์มต่างๆ รวมถึงต่างประเทศ

ทั้งนี้บริษัทฯ คาดปี 2564 พลิกมีกำไร จากปีก่อนที่มีผลขาดทุน 214.3 ล้านบาท หลังจากเริ่มเห็นการเทิร์นอะราวด์ตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2563 และมีกำไรต่อเนื่องมาถึงไตรมาส 1 ปี 2564

โดยรายได้จากการขายโฆษณา ซึ่งเป็นรายได้หลักคาดว่าจะเติบโตมากกว่า 10% จากปีก่อนมีรายได้ 4,757.7 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ารายได้ธุรกิจขายลิขสิทธิ์ละครไปต่างประเทศ (Global Content  Licensing:GCL) ในปีนี้ที่ 500 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้มียอดขายแล้ว 60% จากปีก่อนมีรายได้ 408.5 ล้านบาท และรายได้จาก CH3 PLUS Digital Platform ปีนี้ที่ 500 ล้านบาท จากปีก่อน 429.1 ล้านบาท โดยรายได้ GCL และ CH3 PLUS ในปีนี้คาดว่าจะได้ 1,000 ล้านบาท และอนาคตจะปรับเพิ่มสัดส่วนเป็นกว่า 20% ของรายได้รวม

สำหรับทิศทางธุรกิจในปีนี้ BEC ยังเน้นเพิ่มรายได้จากช่วง Prime-Time โดยปีนี้จะมีละครใหม่ค่อนข้างมาก จากปีก่อนที่ส่วนใหญ่เป็นละครรีรัน และช่วง Non Prime-Time ก็เพิ่มขึ้นเช่นกันโดยเฉพาะช่วงรายการข่าว ซึ่งจะมีการปรับรูปแบบรายการ รวมถึงรายการที่มีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา กลับมาเป็นผู้ดำเนินรายการข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ด้วย ทำให้ยอดขายโฆษณาในรายการข่าวและจำนวนผู้ชมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ในปีนี้มีการปรับเปลี่ยนรายการข่าวเพื่อดึงฐานลูกค้า โดยรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” ได้ขยายเวลาอีก 25 นาที ส่วน “เรื่องเด่นเย็นนี้” ย้ายไปช่วง Early Prime-Time เพื่อเจาะกลุ่มฐานลูกค้าในช่วงเย็น ส่วนรายการเสาร์อาทิตย์ก็ได้มีการเปลี่ยนผังรายการให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

ในส่วนธุรกิจ GCL ในปีนี้จะมีการขยายตัวต่อเนื่องจากการนำลิขสิทธิ์ละครและรายการไปขายในประเทศที่มีกำลังซื้อมากขึ้น อาทิ อเมริกา ยุโรป แอฟริกาใต้ จากเดิมที่เน้นขายในเอเชีย โดยเฉพาะจีน และอินโดจีน หลังจากปีที่ผ่านมาได้ขยายตลาดไปที่เกาหลีและญี่ปุ่นที่มีกำลังซื้อสูง

ส่วน Platform Online หรือ CH 3+ มีฐานลูกค้าอีกกลุ่มที่มีอายุน้อยลงเป็นเจนเนอเรชั่นใหม่ที่ไม่ต้องการดูรายการทีวี ก็มีแผนขยายฐานเช่นเดียวกัน รวมถึงการเพิ่มจำนวนสมาชิก โดยปัจจุบันมียอดผู้เช้าชมต่อเดือน (Monthly Active User:MAU) เติบโตกว่า 200% ในปัจจุบัน เป็น 10 ล้านคนต่อเดือน จากเดือน มี.ค.63 ที่มียอดผู้ชม 3 ล้านคน/เดือน และมียอดสมาชิก 3 PLUS เป็น 1.8 ล้านคน จากช่วงเริ่มต้นในไตรมาส 1/63 อยู่ที่ 15,000 คน

CH3PLUS ยังเป็นช่องทางโปรโมทศิลปินดาราสังกัดช่อง 3 และในอนาคตจะมีสินค้าต่างๆ ที่เกี่ยวกับดาราของช่อง 3 ออกมาเสนอขายด้วยก็จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทอีกทางหนึ่ง ขณะที่ช่อง 3 ได้มีการขายคอนเทนท์ให้กับ Platform เจ้าอื่นอีกหลายราย รวมถึง Netflix และเปิดโอกาสให้มีการผลิตร่วมกัน ส่วนการขายละครไปต่างประเทศปีละ 20-30 เรื่อง ส่วนใหญ่ช่อง 3 เป็นผู้ขายเอง

ทั้งหมดนี้ เป็นการตอกย้ำกลยุทธ์ Single Content Multiple Platform  โดยกลุ่มเป้าหมายบนทีวีเป็นกลุ่มอายุ 35 ปีขึ้นไปในกรุงเทพและหัวเมือง ส่วนที่ผ่าน Platform ต่างๆ อาทิ CH 3PLUS , Facebook,Youtube เป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปี ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนจับมือกับพันธมิตรต่างประเทศต่อเนื่อง ที่ผ่านมาเพิ่งได้แนะนำละครไทยของช่อง 3 ในตลาดญี่ปุ่น”นายพิริยดิส กล่าว

โดยปัจจุบันฐานะการเงินของ BEC แข็งแรง หลังจากที่ได้ปรับลดต้นทุน มีการปรับโครงสร้างองค์กรเล็กลง และปลายปีที่แล้วขายบีอีซี-เทโร ออกไป ส่วนงบลงทุนปี 64 ยังไม่มากนัก แต่ปีข้างหน้า ต่อไปมีการขยายธุกิจก็จะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นและรายได้เพิ่มตามการลงทุน

สำหรับสถานการณ์โควิดในไตรมาส 2/64 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโฆษณาไม่มากนัก ขณะที่ BEC ก็ยังมีคอนเทนท์แข็งแรง บริษัทค่อนข้างมั่นใจน่าจะดึงเม็ดเงินโฆษณาจากช่องอื่นและการขายคอนเทนท์ไปต่างประเทศในครึ่งปีหลังน่าจะขายได้มากกว่าครึ่งปีแรก

นอกจากนี้ หลังจากนายสรยุทธ์ กลับมาจัดรายการข่าว “เรื่องเล่าเช้านี้” เรตติ้งเพิ่มขึ้นมา 70-80% จากก่อนหน้ามีเรตติ้ง 30-40% รวมทั้งได้ขยายเวลาเพิ่ม 25 นาที ซึ่งน่าจะรอดู 1-2 เดือนก่อนจะเห็นภาพชัดเจนมากขึ้น

Back to top button