JR โตขั้นบันได! ลุ้นคว้างานใหม่เพียบ หนุนแบ็กล็อกทะลุ 1 หมื่นลบ.  

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ที่มีแนวโน้มผลการดำเนินงานเติบโต อย่าง บริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JR โดยในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา JR รายงานกำไรสุทธิที่ระดับ 55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 124% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 415% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งคิดเป็น 62% ของกำไรสุทธิทั้งปีของปี 2563

ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 1 บริษัทมีมูลค่างานในมือ หรือ แบ็กล็อก 5.8 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาส 2/64 –ไตรมาส 4/64 ราว 2.1 พันล้านบาท และรับรู้ต่อ 2.4 พันล้านบาทในปี 2565 และรับรู้ 1.2 พันล้านบาทในปี 2566

ดังนั้น จึงจะเห็นได้ว่า ผลการดำเนินงานของ JR จะอยู่ในช่วงขาขึ้นนับตั้งแต่ไตรมาส 2/64 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ JR ชนะประมูลงานใหม่รวม 220 ล้านบาท ขณะที่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 บริษัทคาดหวังว่าจะเซ็นรับงานในระดับ 900 ล้านบาทในไตรมาส 4/64 และอีก 6 พันล้านบาทในไตรมาส 1/65

โดยงานหลักที่ลุ้นในไตรมาส 4/64 ได้แก่งาน Substation ที่ขอนแก่น ขณะที่งานใหญ่ในไตรมาส 1/65 คือระบบไฟฟ้าของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง-เฟส 2 มูลค่า 2.5 พันล้านบาท และระบบไฟฟ้าของรถไฟฟ้าสายสีชมพู –เฟส 2 มูลค่า 3.5 พันล้านบาท ซึ่งหากได้งานดังกล่าวจะช่วยหนุน Backlogs แตะระดับหมื่นล้านบาท และจะเป็นตัวผลักดันให้บริษัทโตก้าวกระโดดในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

พร้อมกันนี้ JR อยู่ระหว่างนำความเชี่ยวชาญด้านการวางระบบไฟฟ้า เข้าบุกตลาด EV Car โดยบริษัทฯอยู่ระหว่างจับมือกับ Partner เพื่อวางระบบสถานีชาร์จ เช่น รถเมล์ไฟฟ้า เรือไฟฟ้า

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ ประเมินว่า ทั้งรายได้และกำไรสุทธิของ JR จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งเป็นขั้นบันไดทั้งจากไตรมาสก่อนและจากช่วงเดียวกันของปีก่อนในทุกๆ ไตรมาสของปี 2564 จากการทยอยรับรู้รายได้ที่เร่งตัวขึ้นจาก Backlog ในมือที่มีอยู่

ขณะเดียวกันยังประมาณกำไรปกติปี 2564 ที่ 290 ล้านบาท เติบโต 229.30% เมื่อเทียบกับกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งปลายปีนี้มีลุ้นเซ็นงานใหม่เพิ่มมูลค่าราว 7-8 พันล้านบาท ในโครงการเปลี่ยนสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพูเฟสที่ 2 หนุน Backlog ทะลุ 1 หมื่นล้านบาท พร้อมกับรอรับรู้รายได้ไปถึงปี 2569 ซึ่งยาวที่สุดในกลุ่มบริษัทที่มีธุรกิจเป็น Project Base

ขณะที่ฐานะการเงินแข็งแกร่งไม่มีหนี้สินที่มีดอกเบี้ยและมีเงินทุนพร้อมหลังจาก IPO ส่วนประเด็นทองแดงราคาขึ้นไม่เป็นปัจจัยลบเนื่องจาก JR ล้อคราคากับ Supplier ล่วงหน้าหมดแล้ว

ทั้งนี้คงราคาเป้าหมายหุ้น JR ที่ 8.80 บาท (อิง PE 23 เท่า) โดยประเมินแนวโน้มกำไรที่จะยกฐานแรงในทุกไตรมาสของปีนี้เป็นปัจจัยหนุนสำคัญ และมี Backlog รองรับอย่างมั่นคงในระยะยาว พร้อมยังมี Upside เพิ่มเติมหากรับงานโครงการใหญ่ในอนาคต โดยเฉพาะระบบวิศวกรรมไฟฟ้าในอุตสาหกรรม Oil & Gas และโครงสร้างพื้นฐาน จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”