SECURE ดีเดย์เทรด mai ลุ้นวิ่งแตะเป้า 24.20 บ. ชูผู้นำ Cybersecurity ครบวงจร

SECURE ลงสนามเทรด mai วันนี้ ลุ้นวิ่งแตะเป้า 24.20 บ. ชูจุดแข็ง Cybersecurity ครบวงจร โบรกคาดรายได้ในปี 64 เท่ากับ 796 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับปีก่อน และปี 65 เท่ากับ 875 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10%


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (1 ก.ค.64) หลักทรัพย์ บริษัท เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว จำกัด มหาชน เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดเอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรก ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,644 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า SECURE

โดย SECURE ดำเนินธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์โซลูชั่นด้านการรักษาความปลอดภัยทางเทคโนโลยีไซเบอร์ และธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ที่บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่าย โดยแบ่งผลิตภัณฑ์ที่บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่าย 4 ประเภท

ได้แก่ (1) ระบบรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์ผู้ใช้งานโดยตรง (2) ระบบรักษาความปลอดภัยบนเครือข่าย (3) ระบบการบริหารจัดการประสิทธิภาพ และ (4) ระบบหรือซอฟต์แวร์อื่นๆ ได้แก่ ซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับการเข้ารหัสข้อมูล ซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับการยืนยันและระบุตัวตน และซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บข้อมูล เป็นต้น

โดยเจ้าของผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นผู้นำด้านการรักษาความปลอดภัยทางเทคโนโลยีไซเบอร์ ที่บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่าย ได้แก่ Palo Alto Networks, Trendmicro, Solarwinds, Radware, Carbonblack, Gigamon และ Extrahop Networks เป็นต้น ทั้งนี้ บริการที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวแทนจำหน่าย ได้แก่ บริการบำรุงรักษา บริการด้านการติดตั้ง และบริการฝึกอบรมการใช้งานระบบ โดยมีกลุ่มลูกค้าหลักคือ ผู้รับเหมารวบรวมระบบและเทคโนโลยี (System Integrator : SI) ที่ทำหน้าที่ออกแบบระบบต่างๆ โดยนำเสนอโซลูชั่นที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานโดยตรงในระดับองค์กร ทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน

โดย SECURE มีทุนชำระแล้ว 51.37 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 75 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 27.74 ล้านหุ้น เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน แก่บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ผู้ลงทุนสถาบัน และนิติบุคคลที่สามารถเข้าร่วมการสำรวจความต้องการซื้อ ผู้มีอุปการคุณของบริษัท กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท เมื่อวันที่ 23 – 25 มิถุนายน 2564 ในราคาหุ้นละ 16 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 444 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,644 ล้านบาท

สำหรับการกำหนดราคาเสนอขาย IPO มาจากการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนสถาบัน (Book building) ซึ่งกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 16 บาทต่อหุ้น มีอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 35.27 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (ไตรมาส 2/2563-ไตรมาส 1/2564) ซึ่งเท่ากับ 46.61 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้เท่ากับ 102.74 ล้านหุ้น (Fully Diluted) มีบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย บริษัทมีใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทที่ออกให้แก่ผู้บริหารและพนักงาน (ESOP Warrant) จำนวน 3.2 ล้านหน่วย มีระยะเวลาใช้สิทธิไม่เกิน 5 ปี โดย 1 Warrant สามารถแปลงได้ 1 หุ้นสามัญ ที่ราคาหุ้นละ 16 บาท

ด้านนายนักรบ เนียมนามธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SECURE เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินธุรกิจตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Cybersecurity มากว่า 15 ปี มีผู้บริหารและทีมงานที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ มุ่งเน้นการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย มีคุณภาพสูง และมีเทคโนโลยีทันสมัยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล มีความสัมพันธ์อันดีและได้รับความไว้วางใจทั้งจากลูกค้าและเจ้าของผลิตภัณฑ์

นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับรางวัลตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมจากเจ้าของผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น Palo Alto Trendmicro และ Solarwinds สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนบริษัทจะนำไปสร้างศูนย์ให้บริการด้านเทคนิค ลงทุนเพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ Cybersecurity ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

สำหรับ SECURE มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ บริษัท มอซ เซกูโร จำกัด ถือหุ้น 24.36% กลุ่มล้วนจำเริญ ถือหุ้น 20.33% และ กลุ่มเนียมนามธรรม ถือหุ้น 16.63% บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมาย

ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดว่ารายได้ในปี 2564 ของ SECURE จะเท่ากับ 796 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับปีก่อน และปี 2565 เท่ากับ 875 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากฐานทุนที่แข็งแกร่งหลังเข้าตลาดฯ การเร่งขยายทีม การขยายศูนย์ให้บริการด้านเทคนิคแห่งใหม่ รวมถึงความต้องการลงทุนค้างท่อในยุค Post COVID-19 และตลาดที่ก้าวเข้าสู่ยุค 5G

รวมทั้งคาดกำไรปกติปี 2564-65 ที่ 71 ล้านบาท เพิ่มขึ้้น 134% จากงวดเดียวกันปีก่อน และ 84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากงวดเดียวกันปีก่อน ตามลำดับ หนุนจากการเติบโตของความต้องการสินค้าในกลุ่ม Network Security สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นปี 2564/2565 คาดอยู่ที่ระดับ 23%

ส่วนธุรกิจร่วมทุน บริษัท เอ็นเดต้าธอธ จำกัด ซึ่ง SECURE ถือหุ้น 55% ที่จะรับรู้ในรูปแบบ Share of profit จะเริ่มส่งผลกำไรในปี 2565 ที่ราว 2 ล้านบาท แต่จะหนุนการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยจึงได้ประเมินมูลค่าที่เหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ไว้ที่ 24.20 บาทต่อหุ้น อิง PER ที่ 30.4 เท่าหรือเท่ากับค่าเฉลี่ยหุ้นในกลุ่ม ICT ขนาดเล็กที่ให้บริการ Software ในประเทศไทยและหุ้นค้าปลีก IT ที่ขายบริการ Software อิงสมมติฐาน Fully Dilution ซึ่งรวมทั้ง Warrant ราว 3 ล้านหุ้นที่บริษัทให้กับพนักงาน

Back to top button