จับตา WINMED โตกระหึ่ม! ยืนหนึ่ง Rapid Antigen Test

เจาะลึกหุ้น WINMED หลังเป็นผู้นำเข้า Rapid Antigen Test ในไทย ลุ้นผลงานโตกระโดดหลังไทยอนุมัติใช้ Rapid Antigen Test อย่างแพร่หลาย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2564 ที่ผ่านมา นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวถึงการตรวจเชื้อโควิดในสถานพยาบาลเอกชน กับการเข้าสู่ระบบแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) และการแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) ภายในงานแถลงข่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์กระทรวงสาธารณสุข ว่าในปัจจุบันประชาชนมีความต้องการตรวจเชื้อโควิดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา สบส. ได้กำหนดว่า ที่ไหนตรวจโควิดแล้วพบผู้ป่วยติดเชื้อต้องรับการดูแลแอดมิด หรือประสานเตียงผู้ป่วย แต่ปัจจุบันมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น และคนอยากทราบผลการตรวจเชื้อเร็วขึ้นนั้น

ล่าสุดทาง สบส. ได้แจ้งสมาคมโรงพยาบาลเอกชน เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่มีประเด็นข่าวไม่ตรวจเชื้อเพราะเตียงเต็ม จึงได้แจ้งว่าสถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว และขณะนี้อนุญาตให้ตรวจเชื้อแบบแรบิด แอนติเจน เทส ทำให้สถานพยาบาลสามารถตรวจได้เร็วและง่ายดายมากขึ้น จึงขอให้ดำเนินการตามปกติ

นพ.ธเรศ กล่าวอีกว่า ตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข ที่กรมการแพทย์ได้ออกมาตรฐานของ Home Isolation และ Community Isolation เป็นการเอาระบบสุขภาพปฐมภูมิที่ไทยมีจุดเด่น มีคลินิกชุมชนอบอุ่น ต่างจังหวัดเราก็มี อสม. มีรพ.สต. สิ่งต่างๆเหล่านี้จะช่วยเสริมการแยกกักตัวที่บ้าน ซึ่งได้แจ้งสถานพยาบาลเอกชน ว่าหากกรณีตรวจผู้ป่วยแล้วพบผลบวก ก็ขอให้ดูแลได้ทั้ง 2 แนวทาง

โดยแนวทางที่ 1 หากมีเตียง และผู้ป่วยอยู่ในเกณฑ์เหมาะสมต้องนอนโรงพยาบาล เช่นอายุมากมีโรคประจำตัว เป็นกลุ่มเสี่ยงก็ขอให้ดูแล แต่หากไม่สามารถดูแลได้ก็จัดเข้าสู่ระบบการแยกกักที่บ้าน

สำหรับแนวทางที่ 2 หากผู้ป่วยแข็งแรงดี ตามข้อกำหนดเข้าสู่ระบบ Home Isolation ทางสถานพยาบาลก็สามารถดำเนินการกรณีนี้ได้

“เรายังได้ประชุมคณะทำงาน ทำเรื่องหลักเกณฑ์ค่าใช้จ่าย และชี้แจงแนวทางการดำเนินงานให้สมาคมรพ.เอกชนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และจะออกประกาศอย่างเป็นทาง รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น จะเสนอครม.พิจารณา ไม่ให้เป็นภาระของประชาชน” อธิบดี สบส. กล่าว

อย่างไรก็ตาม จากการประเมินสถานพยาบาลภาคเอกชนในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีส่วนหนึ่งพร้อมดำเนินการเรื่องดังกล่าว ซึ่งมีการพร้อมตรวจเชื้อแบบแรบิด แอนติเจน เทส และดูแลผู้ป่วยหากมีเตียง หรือหากไม่มีก็ตาม และผู้ป่วยเข้าเกณฑ์ดูแลที่บ้านได้ก็สามารถดำเนินการได้

ทั้งนี้ จากประเด็นดังกล่าวข้างต้น ทำให้ทาง “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์”  มีการสำรวจไปยังข้อมูลเกี่ยวเนื่องบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่คาดว่าจะได้รับปัจจัยบวกกับประเด็นดังกล่าว เบื้องต้นพบว่า บริษัท วินเนอร์ยี่ เมดิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ WINMED จะมีการได้รับประโยชน์มากสุด ถ้าหากประเทศไทยมีการอนุญาตให้ใช้ชุดตรวจเชื้อแบบแรบิด แอนติเจน เทส (Rapid Antigen Test) แบบแพร่หลายมากยิ่งขึ้น เนื่องด้วย WINMED เป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายชุดตรวจเพื่อการวิเคราะห์ วินิจฉัย และบำบัดรักษา รวมถึงเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง

ขณะเดียวกัน WINMED มีพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างบริษัทฯ Hologic ซึ่งมีจุดแข็งที่เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันจากชุดตรวจโควิด-19 ระบบอัตโนมัติที่มีความแม่นยำสูง และสามารถตรวจสอบผู้ติดเชื้ออย่างรวดเร็วสามารถบรรเทาการแพร่กระจายของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้ โดยขณะนี้ Hologic ได้มีการจัดส่งชุดตรวจโควิด-19 ครอบคลุมถึง 50 รัฐในสหรัฐอเมริกา และสามารถตรวจเชื้อได้มากกว่า 10 ล้านรายภายในระยะเวลา 1 เดือน

นอกจากนี้หากสำรวจราคาหุ้นของ Hologic ได้มีการปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากจุดต่ำสุดในรอบ 6 ปีที่ราคา 29.38 ดอลลาร์ กระทั้งเมื่อเดือนมี.ค. 2563 มีการปรับตัวทำออลไทม์ไฮที่ 83.72 ดอลลาร์ ส่งผลให้ปรับตัวมากถึง 184.96% เลยทีเดียว ภายหลังจากการเกิดวิกฤตโควิด-19 จนล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ก.ค. 2564 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 69.31ดอลลาร์

ดังนั้น จึงเป็นที่น่าจับตาว่า WINMED หากมีการนำชุดตรวจเชื้อแบบแรบิด แอนติเจน เทส มาจำหน่ายในประเทศไทยได้เต็มรูปแบบก็จะสามารถช่วยเพิ่มยอดขายให้บริษัทฯ ได้อย่างก้าวกระโดดในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่มีทีท่าจะคลี่คลายลง แม้ว่าจะมีการทยอยฉีดวัคซีนก็ตาม

Back to top button