ครม.เห็นชอบแผนคุ้มครอง “สมุนไพร” เขตอนุรักษ์ หวังกระจายรายได้สู่ชุมชน
ครม.เห็นชอบแผน “คุ้มครองสมุนไพร” ในเขตอนุรักษ์ เพื่อคุ้มครองสมุนไพรและบริเวณถิ่นกำเนิดของสมุนไพรที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ รวมทั้งเป็นกรอบแนวทางการดำเนินงานเชิงบูรณาการ หวังกระจายรายได้สู่ชุมชนและประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแผนระดับที่ 3 ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซึ่งเป็นร่างแผนจัดการเพื่อคุ้มครองสมุนไพรในพื้นที่เขตอนุรักษ์ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ปี 2542 ฉบับที่ 1 (2564-2565) มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองสมุนไพรและบริเวณถิ่นกำเนิดของสมุนไพรที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ หรืออาจได้รับผลกระทบจากการกระทำของมนุษย์ในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นเขตอนุรักษ์ รวมทั้งเป็นกรอบแนวทางการดำเนินงานเชิงบูรณาการ เพื่อเสนอแผนจัดการเพื่อคุ้มครองสมุนไพรในพื้นที่เขตอนุรักษ์รายพื้นที่อย่างน้อย 12 แห่งต่อไป
ทั้งนี้ ตามร่างแผนฯ ดังกล่าวมีเป้าหมายสำคัญ ประกอบด้วย อนุรักษ์ ปกป้อง คุ้มครองสมุนไพรและบริเวณถิ่นกำเนิดของสมุนไพรในเขตพื้นที่อนุรักษ์และมีการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน, เสริมสร้างศักยภาพ บทบาท การมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในการคุ้มครองสมุนไพร, สำรวจ ศึกษาวิจัยสมุนไพรและบริเวณถิ่นกำเนิดของสมุนไพร และเสริมสร้างความมั่นคงด้านเศรษฐกิจของประเทศ โดยการส่งเสริมและสนับสนุนการปลูกพืชสมุนไพรให้เป็นพืชเศรษฐกิจ กระจายรายได้สู่ชุมชน และประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
สำหรับหลักเกณฑ์สำคัญในการคัดเลือกพื้นที่ เพื่อประกาศเป็นแผนจัดการคุ้มครองสมุนไพรระดับพื้นที่ เช่น เป็นพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบกระเทือนจากการกระทำของมนุษย์ได้โดยง่าย หรือการเข้าไปใช้ประโยชน์จากสมุนไพรที่มีลักษณะเป็นการเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์หรือการลดลงของพันธุกรรม, เป็นพื้นที่ถิ่นกำเนิดของสมุนไพรที่มีระบบนิเวศตามธรรมชาติ หรือมีความหลากหลายทางชีวภาพที่อาจถูกทำลาย
รวมถึงต้องสำรวจพบสมุนไพรสำคัญในพื้นที่ คือ สมุนไพรที่มีค่าต่อการวิจัย สมุนไพรที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ และสมุนไพรที่อาจจะสูญพันธุ์ เป็นพื้นที่ที่ชุมชนและประชาชนมีความต้องการใช้ประโยชน์จากสมุนไพรอย่างเหมาะสม และต้องได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงาน องค์กร ภาคีเครือข่าย ภาคประชาสังคมในระดับพื้นที่ในการบริหารจัดการเป็นแผนจัดการเพื่อคุ้มครองสมุนไพร
สำหรับงบประมาณนั้น จะใช้จ่ายจากเงินกองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย โดยได้ประมาณการวงเงินแผนระยะสั้น 2 ปีจำนวนทั้งสิ้น 1,735,000 บาท