WTI ปิดพุ่ง 5% รับอานิสงส์ “สต็อกน้ำมันดิบเมืองคูชิงร่วง – ดีมานด์ยังสูง”
WTI ปิดพุ่ง 4.60% แตะ 70.30 ดอลล์ หลังสต็อกน้ำมันดิบเมืองคูชิงร่วงต่ำสุดในรอบ 18 เดือน ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซิน และน้ำมันกลั่นปรับตัวลง ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงเพิ่มขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 ก.ค.) ขานรับรายงานที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิงในรัฐโอกลาโฮมาของสหรัฐ ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 18 เดือน ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นปรับตัวลงเช่นกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงเพิ่มขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 3.10 ดอลลาร์ หรือ 4.60% ปิดที่ 70.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 2.88 ดอลลาร์ หรือ 4.20% ปิดที่ 72.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลง 1.40 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว แตะระดับ 36.70 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2563
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 100,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 1.10 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.30 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 600,000 บาร์เรล
อย่างไรก็ดีสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 2.10 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 6.70 ล้านบาร์เรล
ทั้งนี้นักวิเคราะห์จากบริษัท Again Capital ในรัฐนิวยอร์กกล่าวว่า แม้สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย อันเนื่องมาจากการนำเข้าน้ำมันดิบที่สูงขึ้น แต่การลดลงของสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รวมทั้งสต็อกน้ำมันกลั่นและน้ำมันเบนซิน สะท้อนให้เห็นว่าความต้องการน้ำมันในสหรัฐยังคงปรับตัวสูงขึ้น