SET ปิดลบ 7 จุด เซ่นโควิดกดดัน – หยุดยาว โบรกแนะติดตามประชุม “เฟด” 27-28 ก.ค.นี้
SET ปิดลบ 7.47 จุด โควิดยังคุมไม่อยู่และเผชิญแรงกดดันจากแนวโน้มเงินสกุลเอเชียอ่อนค่า ส่งผลให้เปิด Downside ในไตรมาส 3/2564 และอยู่ในช่วงหยุดยาว ทำให้ตลาดฯซึมลงและหุ้นบิ๊กแคปก็กลับมาถอยลง พรุ่งนี้ตลาดปิดทำการ ทิศทางวันพฤหัสบดีคงแกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง ให้แนวรับ 1,530-1,515 แนวต้าน 1.550 จุด
10 หุ้นกดดัชนีวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ที่ระดับ 1,537.63 จุด ลดลง 7.47 จุด (-0.48%) มูลค่าการซื้อขาย 70,265.17 ล้านบาท
นายวิจิตร อายะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งถอยลง ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งแดนบวก-ลบสลับกัน โดยตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงร่วงหนักจากปัจจัยเฉพาะตัว และแนวโน้มค่าเงินสกุลเอเชียอ่อนตัวลงก็เป็นผลกระทบที่เพิ่มเข้ามา
ส่วนบ้านเรา ยังเผชิญแรงกดดันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ไม่สามารถควบคุมได้ จึงทำให้เปิด Downside ในไตรมาส 3/64 และยังอยู่ในช่วงวันหยุดยาว ทำให้นักลงทุนไม่ค่อยเทรดหุ้นกัน สัญญาณตลาดบ้านเราเป็นลักษณะของการซึมตัวลงเรื่อย ๆ ทำให้เล่นยาก และหุ้นบิ๊กแคปก็กลับมาถอยลงต่อ
แนวโน้มการลงทุนในวันพฤหัสบดี (29 ก.ค.) นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง แนะติดตามผลประกอบการของกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐฯ คาดว่าจะออกมาดี และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 27-28 ก.ค.นี้ รวมทั้งผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐและยูโรโซน รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯวันที่ 30 ก.ค.นี้
พร้อมให้แนวรับ 1,530-1,515 จุด ส่วนแนวต้าน 1.550 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,776.03 ล้านบาท ปิดที่ 103.50 บาท ลดลง 2.00 บาท
RCL มูลค่าการซื้อขาย 2,276.51 ล้านบาท ปิดที่ 56.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,698.83 ล้านบาท ปิดที่ 26.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
7UP มูลค่าการซื้อขาย 1,685.14 ล้านบาท ปิดที่ 3.46 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท
EA มูลค่าการซื้อขาย 1,626.49 ล้านบาท ปิดที่ 60.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท