“หุ้นยุโรป” ร่วง 2 วันติด วิตกจีนคุมเข้มบ.เทคโนฯ กระตุ้นแรงขายทั่วโลก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และการร่วงลงของหุ้นจีน หลังทางการจีนดำเนินมาตรการคุมเข้มด้านกฎระเบียบกับบริษัทด้านเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตรายใหญ่

โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 458.65 จุด ลดลง 2.49 จุด หรือ -0.54%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,531.92จุด ลดลง 46.68 จุด หรือ -0.71%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,519.13จุด ลดลง 99.85 จุด หรือ -0.64% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,996.08จุด ลดลง 29.35 จุด หรือ -0.42%

ทั้งนี้ ความวิตกเกี่ยวกับการคุมเข้มด้านกฎระเบียบกับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีนได้กระตุ้นแรงขายหุ้นทั่วโลกในสัปดาห์นี้ แม้บรรดานักลงทุนมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทสหรัฐและยุโรปก็ตาม

ด้านหุ้นโปรซัสของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งถือหุ้นในบริษัทเทนเซ็นต์ของจีน ร่วงลง 7.2% สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2563 หลังตลาดหุ้นจีนดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือน

ขณะที่หุ้นเรกคิตต์ซึ่งผลิตสเปรย์ค่าเชื้อไลซอล ร่วง 8.4% หลังเตือนว่าผลกำไรของบริษัทจะได้รับผลกระทบในปีนี้จากต้นทุนที่สูงขึ้น

ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนำตลาดร่วงลง โดยหุ้นโลจิเทค ร่วง 9.9% หลังคงเป้าหมายผลประกอบการทั้งปีนี้ แม้รายงานผลประกอบการรายไตรมาสดีเกินคาดก็ตาม

เช่นเดียวกับหุ้นหลุยส์ วิตตอง, หุ้นเคอริ่ง และหุ้นมองเคลอร์ ปรับตัวลงตามทิศทางตลาดโดยรวม

อย่างไรก็ตาม บรรดานักลงทุนจะรอดูการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐ และผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้หรือตรงกับเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีนี้ตามเวลาประเทศไทย