สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 28 ก.ค. 2564

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์ และ S&P500 ไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวัน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวว่า เฟดยังคงอยู่ห่างไกลจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,930.93 จุด ลดลง 127.59 จุด หรือ -0.36% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,400.64 จุด ลดลง 0.82 จุด หรือ -0.02% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,762.58 จุด เพิ่มขึ้น 102.01 จุด หรือ +0.70%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งช่วยบดบังความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับการที่รัฐบาลจีนเพิ่มการควบคุมด้านกฎระเบียบกับบริษัทเทคโนโลยีซึ่งส่งผลกระทบถ่วงตลาดหุ้นทั่วโลกในสัปดาห์นี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 461.70 จุด เพิ่มขึ้น 3.05 จุด หรือ +0.66%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,609.31 จุด เพิ่มขึ้น 77.39 จุด หรือ +1.18%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,570.36 จุด เพิ่มขึ้น 51.23 จุด หรือ +0.33% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,016.63 จุด เพิ่มขึ้น 20.55 จุด หรือ +0.29%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มเดินทาง หลังอังกฤษยกเลิกมาตรการกักตัวนักเดินทางที่ฉีดวัคซีนแล้วจากสหภาพยุโรปและสหรัฐ นอกจากนี้ การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในอังกฤษได้ช่วยหนุนตลาดด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,016.63 จุด เพิ่มขึ้น 20.55 จุด หรือ +0.29%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินที่ลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 72.39 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค. 2564

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.40% ปิดที่ 74.74 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค. 2564

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) ก่อนที่นักลงทุนจะรู้ผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุมนโยบายการเงิน

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 10 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 1,799.7 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 22.80 เซนต์ หรือ 0.92% ปิดที่ 24.877 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 8.60 ดอลลาร์ หรือ 0.82% ปิดที่ 1,058.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 15.90 ดอลลาร์ หรือ 0.60% ปิดที่ 2,622.60 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับใกล้ 0% ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวว่า เฟดยังคงอยู่ห่างไกลจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.16% แตะที่ 92.2887 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9106 ฟรังก์ จากระดับ 0.9142 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2526 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2591 ดอลลาร์แคนาดา แต่เมื่อเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 109.95 เยน จากระดับ 109.72 เยน

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1841 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1821 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3906 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3885 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7372 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7360 ดอลลาร์สหรัฐ