SET สัปดาห์นี้ผู้ติดเชื้อนิวไฮต่อ-ขยาย Lockdown กดดัน! แนะ 18 หุ้นเด่นลงทุนครึ่งปีหลัง

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สัปดาห์นี้ (27 – 30 ก.ค.64) Weekly outlook : “ลุ้นดีดตัวสั้นที่แนวรับ” ต้าน 1,545/1,554 จุด รับ 1,510/1,493 จุด

(+) Lower Risk of Tapering in ST: FED ย้ำยังไม่ถึงเวลาที่จะพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ย ส่วนการ Tapering นั้นจะขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจหลังจากนี้ซึ่งรายงานตัวเลขไตรมาส 2/2564 GDP ของสหรัฐฯที่ขยายตัว 6.5% เทียบไตรมาสก่อนหน้าต่ำกว่าที่ Consensus คาดการณ์เอาไว้ที่ 8.5% เทียบไตรมาสก่อนหน้า ทำให้ระยะสั้นลดความกังวลที่ FED จะปรับเปลี่ยนหรือทยอยถอนนโยบายการเงินผ่อนคลายเร็วกว่าคาด ส่งผลให้ค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าหลุด 92.0 จุด อ่อนค่าสุดในรอบ 1 เดือน คลายแรงกดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยง

(+) Global Econ Data : จับตา 1) ISM ภาคการผลิตของสหรัฐฯ และ PMI ภาคการผลิตของยุโรป 2 ส.ค.นี้ และ ISM ภาคบริการของสหรัฐฯ และ PMI ภาคบริการของยุโรป 4 ส.ค.นี้ Consensus คาดสหรัฐฯโตต่อ ยุโรปทรงตัวสูง

(*) US Labour Data : 1) 4 ส.ค. จับตาตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ค. Consคาดที่ 675,000 ต่ำแหน่ง ลดลงจาก 692,000 ตำแหน่งในเดือนก่อน 2) 6 ส.ค.นี้ติดตามรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค. Cons คาดที่ 925,000 ตำแหน่ง เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ 850,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานเดือนก.ค.คาดที่ 5.6% ลดลงจากเดือนก่อน 5.9%

(*) TH MPC Meeting : การประชุมกนง. 4 ส.ค.นี้ Nomura คาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% โดยจับตาการส่งสัญญาณปรับลดคาดการณ์ GDP โดยปัจจุบันธปท.คาดการณ์ GDP 2021-22 ที่ 1.8% และ 3.9% ตามลำดับ

(*) BOE Meeting : การประชุม BOE วันที่ 5 ส.ค.นี้ Nomura คาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.10% ในปี 2021-22แต่แนะจับตามุมมองเศรษฐกิจ

(-) Fund Flows : Fund Flows ในเอเชียสัปดาห์ที่ผ่านมา (จ-พฤ) เป็น Net Sell ที่ -1,908 ล้านเหรียญ โดยเป็นแรงขายในทุกประเทศ โดยไทยเป็น Net Sell รวม -65ล้านเหรียญ แต่อย่างไรก็ดี ช่วงท้ายสัปดาห์เริ่มเห็นแรงซื้อเข้ามา หลังค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าต่อเนื่อง แนะจับตาว่าเม็ดเงินดังกล่าวจะไหลเข้าอย่างมีเสถียรภาพหรือไม่

(-) Covid-19 & Lockdown Measure : สถานการณ์ Third Wave ยังรุนแรง โดยแม้จะเริ่ม Lockdown ตั้งแต่ 12 ก.ค. แต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังพุ่ง New High ต่อเนื่อง จาก 8-9 พันราย/วัน สู่ 1.7 หมื่นราย/วัน จึงมีโอกาสที่จะเห็นมาตรการเข้มงวดเพิ่มเติมจากทางศบค. โดยเบื้องต้นจะเป็นการขยายเวลา Lockdown ออกไปอย่างไม่มีกำหนด จากเดิมสิ้นสุด 2 ส.ค. จับตาการประกาศอย่างเป็นทางการ

โดยล่าสุดวานนี้(1ส.ค.64)ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ชุดใหญ่มีมติปรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เพิ่มจาก 13 จังหวัด เป็น 29 จังหวัด และให้ขยายมาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่ดังกล่าวอีก 1 เดือน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 2-31 ส.ค.นี้ พร้อมทั้งผ่อนคลายมาตรการให้ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าสามารถเปิดจำหน่ายเฉพาะเพื่อบริการเดลิเวอร์รี่ โดยให้เปิดได้ไม่เกิน 20.00 น.

กลยุทธ์การลงทุน : ภายในยังถูกถ่วงด้วย Third Wave และความเสี่ยง Lockdown เข้มงวดกดดัน Domestic & Re-Opening แต่ SET เริ่มน่าสนใจระยะยาว และเข้าใกล้จุดฟื้นตัวระยะสั้น 1517-1493 จุด แนะนำเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้น 5% สู่ 55%

กลยุทธ์แนะ Selective หุ้นเด่นครึ่งปีหลัง ผสานกลุ่มส่งออก( KCE HANA TU PM ASIAN) สื่อสารฯ (ADVANC) การแพทย์(BDMS, BCH, CHG, EKH, SMD, WINMED) โรงไฟฟ้า(GPSC,BCPG, GULF) หุ้นปันผลระหว่างกาล(TVO) และ Big Cap Deep Value(SCC, TOP)

หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ BCPG, GPSC, TOP ส่วนสัปดาห์ก่อน SAT, PM, BCPG ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย -3.73% แย่กว่าดัชนีฯที่ให้ผลตอบแทน -1.50%

GPSC (TP 91.50) : แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 เด่น + New S Curve

TOP (TP 67.00) : ราคาหุ้นปรับฐานแรงเกิน Dilution Effect ท าให้เกิด Deep Value

BCPG (TP 17.00) : PER ถูก + คาดกำไรปกติไตรมาส 2/64 แตะ 2,480 ล้านบาท โต 27% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนโอกาส M&A

InvestmentTheme

2H21 Stock Picks : ADVANC, KCE, SAT, AMATA, BDMS, GPSC, GULF,CRC, TIDLOR / Mid-small Cap : PM, ICHI, SAPPE