BIZ ลุยตั้งแผนก “กัญชาทางการแพทย์” เพิ่มประสิทธิภาพรักษามะเร็ง สร้างรายได้โตยั่งยืน
BIZ ลุยตั้งแผนก “กัญชาทางการแพทย์” ในโรงพยาบาลแคนเซอร์อลิอันซ์ ศรีราชา หวังเพิ่มประสิทธิภาพรักษามะเร็ง สร้างรายได้เติบโตระยะยาว
นายสมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิสซิเนสอะไลเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ BIZ เปิดเผยว่า กัญชาทางการแพทย์ คือ อีกหนึ่งความตั้งใจที่วันนี้สามารถบอกเล่าได้อย่างเต็มปากว่า โรงพยาบาลแคนเซอร์อลิอันซ์ ศรีราชา ที่ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 65 นั้น ได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข เปิดให้บริการแผนกกัญชาทางการแพทย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา เพราะถือว่ากัญชาคืออีกหนึ่งทางเลือกที่ใช้ในการรักษาร่วมกับการรักษามาตรฐาน เพื่อเพิ่มประสิทธิผลของการรักษาโรคมะเร็งให้ดีขึ้น สอดรับกับพันธกิจที่ว่า “จะเป็นศูนย์กลางเพื่อพัฒนาด้านการรักษาผู้ป่วย ร่วมกับโรงพยาบาล แพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคมะเร็ง ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี”
ในฐานะบริษัทที่ถือหุ้นในโรงพยาบาลดังกล่าวยังเล็งเห็นว่า การเปิดให้บริการของแผนกใหม่ของโรงพยาบาลแคนเซอร์อลิอันซ์ ศรีราชา นี้ จะเป็นอีกหนึ่งความมุ่งหวังของผู้ป่วยโรคมะเร็งที่จะใช้ร่วมกับการรักษามาตรฐานที่ผู้ป่วยแต่ละรายรักษาอยู่ เพื่อบรรเทาอาการไม่พึงประสงค์ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมที่จะรับการรักษาในวันต่อๆไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุขมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ข้อบ่งใช้ กัญชาทางการแพทย์ ได้แก่ 1. ภาวะคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด 2. โรคลมชักที่รักษายาก 3. ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง ในผู้ป่วยโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง 4.ภาวะปวดประสาทที่ดื้อต่อการรักษาด้วย วิธีมาตรฐานแล้วไม่ได้ผล
สำหรับโรงพยาบาลแคนเซอร์อลิอันซ์ ศรีราชา นั้น มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเภสัชกร ที่ผ่านการรับรองและอบรมเรื่อง การใช้กัญชาของกระทรวงสาธารณสุขมา ทำให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่เข้ารับการรักษา สามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับการรักษาตามขั้นตอนและมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข
โดยปัจจุบันโรงพยาบาลแคนเซอร์อลิอันซ์ ศรีราชา กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 2 โดยมีการเริ่มให้บริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 มีมูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท และรองรับผู้ป่วยพักค้างคืนได้จำนวน 30 เตียง และมีเครื่องฉายรังสีเริ่มต้นที่ 1 เครื่อง ในปีนี้จะมีการทำการตลาดในเชิงรุกมากขึ้น หลังจากเข้าร่วมโครงการภาครัฐผู้ถือบัตรทอง 30 บาท รักษาได้ทุกที่ทั่วประเทศ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะทำให้มีจำนวนผู้ป่วยเข้าใช้บริการเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว