สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 3 ส.ค. 2564

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดทำนิวไฮ โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มอุตสาหกรรม รวมทั้งผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ รวมทั้งการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในช่วงปลายเดือนนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,116.40 จุด เพิ่มขึ้น 278.24 จุด หรือ +0.80% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,423.15 จุด เพิ่มขึ้น 35.99 จุด หรือ +0.82% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,761.29 จุด เพิ่มขึ้น 80.23 จุด หรือ +0.55%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทชั้นนำในกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคาร แม้การปรับตัวขึ้นของตลาดยังคงถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่เพิ่มขึ้น และความกังวลเกี่ยวกับการที่รัฐบาลจีนคุมเข้มด้านกฎระเบียบกับภาคธุรกิจต่างๆ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 465.38 จุด เพิ่มขึ้น 0.93 จุด หรือ +0.20%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,723.81 จุด เพิ่มขึ้น 47.91 จุด หรือ +0.72% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,105.72 จุด เพิ่มขึ้น 24.00 จุด หรือ +0.34% แต่ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,555.08 จุด ลดลง 13.65 จุด หรือ -0.09%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนซึ่งตอกย้ำความเชื่อมั่นที่ว่า เศรษฐกิจของอังกฤษจะฟื้นตัวเร็วขึ้น แม้ตลาดยังคงถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,105.72 จุด เพิ่มขึ้น 24.00 จุด หรือ +0.34%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในวันนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันของผู้บริโภค

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 70 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 70.56 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 48 เซนต์ หรือ 0.70% ปิดที่ 72.41 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้

ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8.10 ดอลลาร์ หรือ 0.44% ปิดที่ 1,814.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 0.70 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 25.582 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 9.40 ดอลลาร์ หรือ 0.89% ปิดที่ 1,046.90 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 38.80 ดอลลาร์ หรือ 1.40% ปิดที่ 2,645.30 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ รวมทั้งการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในช่วงปลายเดือนนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับ

ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.04% แตะที่ 92.0777 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2537 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2507 ดอลลาร์ แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.11 เยน จากระดับ 109.24 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9041 ฟรังก์ จากระดับ 0.9048 ฟรังก์

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1863 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1874 ดอลลาร์ จากระดับ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3915 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3894 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7393 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7365 ดอลลาร์สหรัฐ