คัด 9 หุ้นโบรกเชียร์ “ซื้อ” ชูเป้าสูง – กำไรโตเด่น
“บล.ฟินันเซีย ไซรัส” คัด 9 หุ้นที่แนะนำ “ซื้อ” พร้อมมองว่ากำไรไตรมาส 2/64 และช่วงที่เหลือของปี 64 มีโอกาสเติบโตสูง รวมถึงปัจจัยเด่นเฉพาะตัว
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมข้อมูลและบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้นที่น่าสนใจในรอบสัปดาห์นี้จากบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส โดยเป็นการคัดหุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโตของผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 และในช่วงที่เหลือของปีนี้ รวมถึงราคาเป้าหมายที่อยู่ในระดับสูง ดังนี้
บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC : คาดกำไรไตรมาส 2/64 โต 15% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า, โต 13% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำ New High จากยอดขายที่แข็งแกร่งของ All Café ที่ขายดีใน Delivery 7-11 และเริ่มขายเครื่องดื่มเข้า Lotus’s go fresh แล้วคาดกำไรดีต่อในช่วงครึ่งปีหลัง และทำให้กำไรปี 2564-2565 คาดโต 18% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และโต 12% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ พร้อมคงราคาเป้าหมาย 8.50 บาท แนะนำ “ซื้อ”
บริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SMT : คาดกำไรไตรมาส 2/64 โต 22% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจากยอดขายที่แข็งแกร่ง ขณะที่คำสั่งซื้อยาวถึงสิ้นปีแล้ว และกำลังดีลลูกค้าใหม่อีก 8 ราย รวมถึงเริ่มเห็นสัญญาณการคลี่คลายของปัญหาวัตถุดิบที่ตึงตัว คาดกำไรปี 2564-2565 โต 175% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และโต 33% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 8 บาท แนะนำ “ซื้อ”
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC : คาดกำไรไตรมาส 2/64 แข็งแกร่ง โต 91% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และ 10 เท่า เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจากโอเลฟินส์ที่ แข็งแกร่งและมีกำไรจากการขาย GPSC แนวโน้มช่วงครึ่งปีหลังจะชะลอชั่วคราว เพราะมีปิดซ่อมบำรุง และ Spread ปิโตรเคมีที่แคบลง แต่ยังมองบวกระยะยาวต่อการซื้อ Allnex ให้ราคาเป้าหมาย 75 บาท แนะนำ “ซื้อ”
บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS : คาดกำไรไตรมาส 2/64 ลดลง 12% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า, โต 140% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจาก Low Season และมีค่าใช้จ่ายปรับโครงสร้างภายใน แต่ยังโตแรงจากฐานต่ำปีก่อนและได้งานจากกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้น ปรับประมาณการกำไรปี 2564-2565 เป็น โต 69% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และโต 6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรวมดีล TKS-SABUY ไว้ในประมาณการ ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 17 บาท แนะนำ “ซื้อ”
บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO : คาดกำไรไตรมาส 2/64 ทำ New High โต 48% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า, โต 111% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และจะโตต่อเนื่องในไตรมาส 3/64 จากค่าระวางเรือตู้คอนเทนเนอร์ที่ยังทำ New High ล่าสุดค่าเฉลี่ย 3QTD โต 30% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า, โต 3.3 เท่าตัว เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและความต้องการขนส่งยังแข็งแกร่ง รวมถึงเริ่มรับรู้รายได้จากการร่วมมือกับ China Post Group ตั้งแต่ไตรมาส 3/64 ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2564 ขึ้นเป็น โต 168% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และโต 7% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนในปี 2565 ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 13 บาท แนะนำ “ซื้อ”
บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP : มีมุมมองเชิงบวกต่อแบรนด์ที่แข็งแกร่งอย่าง Bento, Jele และ Lotus โดยคาดเติบโตจะมาจากการเพิ่ม Utilization Rate และโรงงานใหม่ในเวียดนาม รวมถึงการควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หนุนให้ Margin ขยายตัว คาดกำไรช่วง 3 ปีข้างหน้าโต 85% CAGR ประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 15 บาท แนะนำ “ซื้อ”
บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด (มหาชน) หรือ AMR : ดำเนินธุรกิจด้านวิศวกรรมออกแบบระบบ IT Solution ครบวงจร เป็นรายเดียวในไทยที่เชี่ยวชาญการวางระบบโครงการรถไฟฟ้าขนาดใหญ่ รวมถึงดูแลรักษาและซ่อมบำรุงระบบต่างๆ และเป็นตัวแทนจำหน่ายในสินค้า IT บางชนิด มีมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานในปี 2564-2567 จาก Backlog ในมือ 1.8 พันล้านบาท และมีโอกาสได้งานเพิ่มจากงานประมูลภาครัฐที่จะออกมาต่อเนื่องอีก 3 ปีข้างหน้า คาดกำไรสุทธิโต 17% CAGR ให้ราคาเป้าหมายที่ 7.50 บาท
บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL : คาดกำไรไตรมาส 2/64 Flat เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า, โต 119% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจากรายได้ Trading ที่พุ่งขึ้น รวมถึงโรงไฟฟ้าโซลาร์ที่แข็งแกร่งในไทยและญี่ปุ่นชดเชยโรงไฟฟ้าลมที่เวียดนามและธุรกิจ EPC ที่ชะลอได้ อย่างไรก็ตาม มีมุมมองบวกต่อการรุกธุรกิจกัญชง และคาดว่าจะส่งผลบวกต่อผลการดำเนินงานปี 2565 เป็นต้นไป คาดกำไรปี 2564-2565 โต 118% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและโต 20% จากปีก่อน ตามลำดับ ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2565 เป็น 5.40 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU : คาดว่าผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลังปี 2564 – 2565 จะได้อานิสงส์เชิงบวกจากทั้งราคาก๊าซและถ่านหินที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่ ระยะยาวจะเน้นลงทุนธุรกิจสีเขียวมากขึ้น ทั้งการขุดโลหะและลิเทียม การขยายของ BPP และธุรกิจนำเข้า LNG ธุรกิจเทคโนโลยีด้านพลังงาน และการลงทุนใน US Gas Valua Chain ปรับลดราคาเป้าหมายลงเล็กน้อยเหลือ 15.90 บาท สะท้อนการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการเพิ่มทุน ราคาหุ้นสะท้อนความกังวลไปแล้ว ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ”