WICE ผุดคลังสินค้าย่าน “บางนา” ขยายฐานลูกค้าใหม่ หวังโกยรายได้ปีนี้ 100 ลบ.

WICE เปิดคลังสินค้าใหม่ย่านบางนา ชูกลยุทธ์บริหารจัดการดีมานด์ - ซัพพลาย ลดต้นทุนการขนส่ง ขยายฐานลูกค้าใหม่ เพิ่มโอกาสรับงาน รองรับการเติบโตของธุรกิจค้าปลีก และ E-Commerce ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะ 100 ล้านบาท


นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทเปิดคลังสินค้าใหม่ย่านบางนา ภายใต้การดำเนินงานโดยบริษัท ไวส์ ซัพพลายเชน โซลูชั่นส์ จำกัด ผู้ให้บริการด้านซัพพลายเชนโซลูชั่นส์ แบบครบวงจร ถือเป็นบริษัทย่อยที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สามารถรับงานหลากหลายในอนาคต อาทิ กลุ่มลูกค้าธุรกิจค้าปลีก (Retail) และ E-Commerce ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มการเติบโตค่อนข้างสูง จากความต้องการขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน จึงเป็นโอกาสดีที่บริษัทผลักดันการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพในธุรกิจนี้

โดย บริษัท ไวส์ ซัพพลายเชน โซลูชั่นส์ จำกัด ให้บริการด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนโซลูชั่นส์แบบครบวงจรในรูปแบบของ 3PL หรือ Third Party Logistics เน้นการให้บริการด้วยนวัตกรรม และระบบการจัดการโลจิสติกส์ที่ปรับให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ครอบคลุมตั้งแต่การบริหารสินค้าขาเข้า (Inbound Logistics) การดำเนินงานพิธีการศุลกากรด้วยผู้ชำนาญการ เชื่อมต่อการขนส่งจากท่าเรือมายังคลังสินค้าเพื่อจัดเก็บและกระจายสินค้าด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชน

สำหรับคลังสินค้าแห่งใหม่ ตั้งอยู่ที่ ถ.บางนา-ตราด กม.18 ด้วยพื้นที่ทั้งหมดกว่า 10,000 ตารางเมตร ให้บริการในกลุ่มลูกค้าธุรกิจค้าปลีก (Retail), กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน (Custom Electronics), กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ และ กลุ่มลูกค้า E-Commerce ครอบคลุมพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ และ ปริมณฑล ซึ่งในปัจจุบันมีลูกค้าเข้าใช้บริการแล้ว 60% และยังอยู่ระหว่างดำเนินการเจรจาอีกหลายราย คาดว่าจะมีลูกค้าเข้าใช้บริการเต็มคลังภายในสิ้นปีนี้ โดยตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 100 ล้านบาท

อีกทั้งบริษัทมีความพร้อมที่จะขยายคลังสินค้าหากมีปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นในอนาคต โดยมีพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อจัดหาคลังสินค้าหรือบริการก่อสร้างคลังสินค้าให้สอดคล้องกับธุรกิจของลูกค้า โดยตั้งเป้าหมายในอีก 3 ปีข้างหน้า จะมีพื้นที่บริหารจัดการคลังสินค้าจำนวนรวม 100,000 ตารางเมตร ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศ

“ขณะที่อุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าเติบโตขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ทั้งจากตัวบริษัทลูกค้าที่มีบริการขนส่งเองอยู่แล้ว และ บริษัทต่างชาติรายใหญ่ผู้ให้บริการจัดการขนส่ง บริษัทจึงมุ่งเน้นกลยุทธ์และการดำเนินงานที่แตกต่าง เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าเป็นสำคัญ เริ่มต้นจากการเข้าใจในธุรกิจของลูกค้า ออกแบบแผนบริหารจัดการขนส่งแบบครบวงจร พร้อมทั้งช่วยลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นในกระบวนการต่างๆ ด้วยความชำนาญในขั้นตอนงานโลจิสติกส์และซัพพลายเชน รวมไปถึงจุดแข็งด้านการให้บริการขนส่งหลากหลายรูปแบบ และ มีเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ ทำให้บริษัทได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า และมีการใช้บริการอย่างต่อเนื่อง” นายชูเดช กล่าว

Back to top button