“ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” เดือนเดียวเงินสะพัดกว่าพันลบ. ตั้งเป้า 3 เดือนสร้างรายได้ 8.9 พันลบ.

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) เปิดถึงความคืบหน้าโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ว่า หลังจากที่รัฐบาลเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในโครงการฯ ไปเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ซึ่งตอนนี้ผ่านไป 1 เดือนแล้ว มียอดนักท่องเที่ยวสะสมอยู่ที่ประมาณ 17,000 คน  มียอดการจองโรงแรมที่ได้เครื่องหมายมาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวและสุขอนามัย SHA Plus ตลอดไตรมาส 3 (กรกฎาคม-กันยายน 2564) จำนวนกว่า 335,000 คืน มีเงินกระจายเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตแล้วกว่า 1,000 ล้านบาท ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม เชื่อว่าต่อไปจะมีทิศทางปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในเดือนสิงหาคม-กันยายน โดยตั้งเป้าว่าในช่วง 3 เดือนแรกของโครงการ (กรกฎาคม-กันยายน 2564) จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ประมาณ 100,000 คน และสร้างรายได้ราว 8,900 ล้านบาท

พร้อมยืนยันว่า “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ต้องดำเนินต่อไปให้ได้ เพราะทุกอย่างกำลังเข้าที่เข้าทาง กว่าโครงการนี้จะเกิดขึ้น ผ่านการประชุมหารือทำงานแบบบูรณาการร่วมกันทั้งภาครัฐและเอกชน เรียกว่าผ่านความท้าทายในหลายเรื่องหลายประเด็นมามากมาย แก้ไขจุดอ่อน ต่อยอดจุดแข็งมาอย่างต่อเนื่อง และธุรกิจหลากหลายกิจการกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี เกิดการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมสำหรับรองรับการท่องเที่ยวช่วง High Season หรือไตรมาสสุดท้ายที่กำลังจะมาถึงปลายปีนี้ด้วย

ทั้งนี้ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นและช่วยกันเป็นหูเป็นตา เป็นเจ้าบ้านที่ดี ดูแลพื้นที่ ดูแลนักท่องเที่ยวให้เกิดความประทับใจ เรียกความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยกลับคืนมา เพื่อให้สามารถต่อยอดไปสู่พื้นที่อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นสมุยที่เปิดไปแล้วเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 หรือกระบี่ พังงาที่อยู่ในแผนการเชื่อมโยงพื้นที่ท่องเที่ยวในรูปแบบ 7+7 ในเดือนสิงหาคมนี้ นอกจากนี้  รัฐบาลยังได้วางแผนให้ทำการศึกษาพื้นที่ที่เป็นเกาะอื่น ๆ โดยเฉพาะในภาคตะวันออก หากมีความพร้อมให้เดินหน้าทันที โดยใช้ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” เป็นฮับในการส่งต่อนักท่องเที่ยวต่อไป

ส่วนกรณีที่นักท่องเที่ยวสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์เสียชีวิตในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตนั้น ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิต ขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังช่วยกันเร่งดำเนินการสร้างความเชื่อมั่น สร้างภาพลักษณ์ให้กับประเทศ ดังนั้น ขอประณามผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสืบสวนและจับกุมผู้กระทำความผิดให้ได้โดยเร็ว พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ทุกส่วนราชการเพิ่มความเข้มงวดดูแลนักท่องเที่ยวตามโครงการฯ ให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งท่านนายกฯ ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และเป็นนโยบายที่มอบให้ตั้งแต่เปิดโครงการแล้ว