“ส.ศูนย์การค้า” แนะรัฐทบทวนเปิด 3 ธุรกิจหลัก พร้อมยก 26 ข้อปฏิบัติเข้ม

“ส.ศูนย์การค้า” จี้รัฐทบทวนมาตรการผ่อนปรนเปิด 3 ธุรกิจหลักที่มีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตของประชาชน สามารถเปิดให้บริการได้ในศูนย์การค้า (1) ธนาคาร สถาบันการเงิน (2)  ธุรกิจสื่อสาร ไอที และ (3) ร้านเบ็ดเตล็ดและร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็น พร้อมยก 26 ข้อปฏิบัติที่มีความเข้มข้นเป็นพิเศษ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมศูนย์การค้าไทย (TSCA) เสนอภาครัฐให้มีการทบทวนมาตรการเพื่อผ่อนปรนให้ 3 ธุรกิจหลักที่มีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตของประชาชน สามารถเปิดให้บริการได้ในศูนย์การค้า ได้แก่ (1) ธนาคาร สถาบันการเงิน (2)  ธุรกิจสื่อสาร ไอที และ (3) ร้านเบ็ดเตล็ดและร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็น

โดยได้กำหนดแผนแม่บทมาตรการธนาคาร และธุรกิจสื่อสาร สะอาด มั่นใจ เข้มข้นยกระดับขั้นสูงสุด ให้เป็นบรรทัดฐานที่ดีในการดูแลความสะอาดปลอดภัยในการให้บริการ สร้างความมั่นใจ ลดความแออัดที่เกิดขึ้น และช่วยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่มีความจำเป็นต้องออกมาทำธุรกรรมทางการเงิน หรือชำระค่าบริการโทรศัพท์มือถือ เพื่อกระจายพื้นที่ให้บริการ ลดความแออัด และลดระยะเวลาการทำธุรกรรม เชื่อมั่น ทุกภาคส่วนพร้อมใจร่วมกันหาทางออกให้กับสถานการณ์ขณะนี้อย่างเต็มที่

ด้านนายนพพร วิฑูรชาติ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SF ในฐานะนายกสมาคมศูนย์การค้าไทย เปิดเผยว่า จากปัญหาความแออัดในการให้บริการเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่มีลูกค้าต่อคิวใช้บริการธนาคารเป็นจำนวนมาก สมาคมศูนย์การค้าไทย มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว และมุ่งมั่นลดความแออัดในการใช้บริการให้ประชาชน จึงขอเสนอภาครัฐให้ทบทวนการเปิดให้บริการ 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธนาคาร ธุรกิจสื่อสาร และร้านเบ็ดเตล็ดรวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า ในศูนย์การค้าเพื่อกระจายช่องทางการใช้บริการและอำนวยความสะดวกให้ประชาชน เพราะศูนย์การค้ามีมาตรการดูแลพื้นที่ของตนเองให้เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับทุกคนมากที่สุด

อีกทั้งธนาคาร ธุรกิจไอที และร้านเบ็ดเตล็ดก็มีมาตรการเข้มข้น ผนวกกับศูนย์การค้าก็มีมาตรการที่เข้มข้นสูงสุดอีกระดับ ซึ่งถือเป็นการ Double Protection และปลอดภัยกว่าสำหรับลูกค้า อีกทั้งยังได้มีการทบทวนแผนอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับมาตรการให้แข็งแกร่ง และสอดคล้องกับสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา

นอกจากนี้จากสถิติการติดเชื้อของพนักงานในศูนย์การค้านั้น พบว่ามีอัตราส่วนที่ต่ำมาก เพราะมีมาตรการในการควบคุมที่ชัดเจน พร้อมทั้งมาตรการป้องกันเชิงรุก Intensive Tracking บริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพในการแยกกลุ่มเสี่ยง – กักตัว 14 วันดูอาการ – เปลี่ยนพนักงานชุดใหม่ เพื่อควบคุมความเสี่ยงตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ทางสมาคมฯ จึงได้ริเริ่มจัดทำแผนแม่บทมาตรการ ธนาคารและธุรกิจสื่อสาร สะอาด มั่นใจ กว่า 26 ข้อปฏิบัติ ที่มีความเข้มข้นเป็นพิเศษ โดยมุ่งหวังเพื่ออำนวยความสะดวก ลดความแออัด และลดเวลาการใช้บริการของประชาชน หากภาครัฐผ่อนปรนให้เปิดให้บริการได้ ดังนี้

1.พนักงานทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว (Sinovac 2 เข็ม, Astrazeneca หรือวัคซีนอื่นๆ อย่างน้อย 1 เข็ม)

2.ก่อนเข้าทำงานพนักงานทุกคนต้องตรวจหาเชื้อโดย Antigen Test Kit และมีผลเป็นลบ โดยผลตรวจต้องไม่เกิน 3 วัน หลังจากนั้นจะต้องตรวจหาเชื้อโดยวิธี Antigen Test Kit เป็นประจำทุก 2 สัปดาห์

3.บันทึก และประเมินประวัติของพนักงานทุกคน ทุกวัน

4.เข้มงวด ห้ามพนักงานจับกลุ่ม หรือนั่งทานอาหารร่วมกัน

5.พนักงานทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย 2 ชั้น หรือ หน้ากากอนามัยและ Face shield ตลอดการให้บริการ

6.ส่งเสริมให้ลูกค้าลงทะเบียนจองคิวล่วงหน้าผ่านช่องทางออนไลน์

7.จำกัดจำนวนคน 1 คนต่อ 5 ตร.ม. และลดความแออัด 100% Social Distancing

8.จัดให้มีเจ้าหน้าที่นับและควบคุมจำนวนลูกค้าหรืออุปกรณ์ในการนับจำนวนลูกค้าให้เป็นไปตามกำหนด

9.ส่งเสริมการทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ หรือ e-Banking

10.บริการถุงมือพลาสติกสำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการ

11.ธนาคารงดให้บริการแลกเหรียญ และธนบัตรย่อย เพื่อลดการสัมผัส

12.มีพนักงานจัดระบบคิวหน้าร้าน

13.กำหนดจุดรอคิวในบริเวณที่กำหนด หากบริเวณหน้าร้านไม่มีพื้นที่ ให้ทางร้านแจกบัตรคิวพร้อมขอเบอร์โทรลูกค้า แล้วให้ลูกค้าไปนั่งรอที่ Rest Area ที่ทางศูนย์ฯ จัดไว้

14.กำหนดการจัดคิว และมีสัญลักษณ์เว้นระยะอยู่ข้างหน้าตู้ ATM หรือ e-Booth ห่าง 1 – 2 เมตร

15.ตรวจวัดอุณหภูมิลูกค้าทุกคนอย่างเคร่งครัดทุกครั้งก่อนเข้าพื้นที่

16.ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ทั้งก่อน-หลังเข้ารับบริการ

17.ธนาคารจัดเจลแอลกอฮอล์บริเวณเคาน์เตอร์ให้บริการ 2 ช่อง ต่อ 1 ขวด

18.กำหนดเส้นทางเดินของลูกค้าในร้านค้า

19.สำหรับร้านค้า จำกัดการรับลูกค้าและผู้ติดตามรวมแล้วไม่เกิน 2 คนต่อกลุ่ม

20.จัดระเบียบการเข้าคิวแคชเชียร์และจุดบริการต่างๆ กำหนด ระยะห่าง 1 – 2 เมตร

21.ส่งเสริมการชำระเงินแบบ Cashless Payment

22.สำหรับอุปกรณ์ Demo ต้องเช็ดน้ำยาฆ่าเชื้อหลังจากลูกค้าสัมผัสทันที

23.ทำความสะอาดบริเวณจุดที่มีการสัมผัสร่วมสูง ทุกๆ 30 นาที

24.ทำความสะอาดและพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อพื้นที่ร้านค้าอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องทุกวันหลังปิดให้บริการ

25.ทำความสะอาด Big Cleaning อบโอโซนฆ่าเชื้อทันทีหากพบว่ามีผู้ติดเชื้อมาใช้บริการ และพนักงานที่มีความเสี่ยงสูง ต้องกักตัว 14 วันเพื่อดูอาการ และเปลี่ยนพนักงานชุดใหม่ทั้งหมด

26.มี Counter Shield ในจุดให้บริการลูกค้า

 

 

Back to top button