“กลาโหม” เร่งตั้ง “รพ.สนาม-CI” ในหน่วยทหาร ระดมกำลังแพทย์ รองรับผู้ป่วยโควิด
“กลาโหม” เร่งตั้ง “รพ.สนาม-CI” ในหน่วยทหารทั่วประเทศ พร้อมเรียกระดมบุคลากรทางแพทย์แถว 2 กว่า 500 คน เข้ามาเสริมการทำงาน เพื่อรองรับการดูแลประชาชน
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กระทรวงกลาโหม (กห.) เปิดเผยว่า พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกลาโหม ประชุมติดตามการสนับสนุนรัฐบาลแก้ปัญหาวิกฤตโควิด 19 ร่วมกับ กอ.รมน. นขต.กห. เหล่าทัพ และ ตร. โดยภาพรวมฝ่ายความมั่นคง ทหารตำรวจ ยังคงตรวจพบและจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองได้ต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ 1-12 ส.ค.64 จับกุมได้ 1,864 คน สำหรับการควบคุมโรค เจ้าหน้าที่ยังคงตั้งจุดตรวจและด่านตรวจบริเวณรอยต่อจังหวัดสีแดงเข้ม และจัดชุดเคลื่อนที่เร็วตรวจในพื้นที่ เพื่อลดการเคลื่อนย้ายและจำกัดกิจกรรมตามเคหสถานที่เป็นปัญหา โดยยังพบพฤติกรรมขาดความรับผิดชอบ รวมกลุ่มดื่มสุรา มั่วสุมเสพยาและเล่นการพนันต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันกองทัพได้เร่งขยายขีดความสามารถทางการแพทย์ใน รพ.ทหารแต่ละเหล่าทัพ โดยจัดตั้งห้อง ICU รองรับผู้ป่วยสีแดงเพิ่ม 80 เตียง และผู้ป่วยสีเหลือง 306 เตียง ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างเร่งจัดตั้ง รพ.สนาม และ CI ในพื้นที่หน่วยทหารทั่วประเทศเพิ่ม ร่วมกับ สธ.จังหวัด พร้อมกันนี้ ได้เรียกระดมบุคลากรทางการแพทย์แถว 2 กว่า 500 คน เข้ามาเสริมการทำงาน เพื่อรองรับการดูแลประชาชน
สำหรับ รพ.สนาม ใน มทบ.11 ในพื้นที่ กทม. อยู่ระหว่างปรับเพิ่มให้สามารถรองรับการตรวจเชื้อคัดกรองโรคได้เพิ่ม 500 คน ต่อวัน ในลักษณะขับรถยนต์มารับการตรวจ (Drive Thru) ขณะที่ รพ.สนามศูนย์คัดกรอง สโมสรกองทัพบก ในพื้นที่ กทม. มีประชาชนมารับการบริการแล้วเกือบ 10,000 คน ให้บริการครบวงจรตรวจคัดกรองเชื้อ เอ๊กเรย์ปอด พบแพทย์ รับตัวเข้ารักษาในระบบ รวมทั้งจ่ายยาและพากลับบ้าน
“นโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กห. ขอให้ทุกเหล่าทัพเร่งสนับสนุนการจัดตั้ง รพ.สนาม และ CI ในหน่วยทหาร เพื่อดูแลประชาชนในพื้นที่สีแดงเข้ม และให้เข้าไปเสริมสนับสนุนการจัดชุดตรวจเชิงรุก และเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากชุมชนและตามบ้าน ที่ยังพบและมีอยู่เข้ามารักษาในระบบโดยเร็ว พร้อมทั้งขอขอบคุณกำลังพลตำรวจและทหารทุกเหล่าทัพ ที่เข้ามาสนับสนุนและเสริมการทำงานของ สธ.และ กทม.อย่างใกล้ชิดในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคทั้งในเขตเมืองและชุมชนทั่วประเทศต่อเนื่องมาโดยกำชับให้ใช้ความระมัดระวังและไม่ประมาทในการปฏิบัติงาน เพื่อมิให้เกิดการสูญเสียในทุกชีวิต” พล.อ.ชัยชาญ กล่าว