ORI – โนมูระ เรียลเอสเตท ผุดเพิ่ม 1 โครงการ 1.4 พันลบ. เจาะกลุ่ม Gen Y – สตาร์ทอัพ

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมกับบริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของญี่ปุ่น เพิ่มเติมอีก 1 โครงการ คือโครงการคอนโดมิเนียมระดับมิดเอนด์แบรนด์ใหม่ ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ รามคำแหง ทริปเปิ้ล สเตชั่น (Origin Plug & Play Ramkhamhaeng Triple Station) มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท นับเป็นการส่งสัญญาณบวกในการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

“แม้ครึ่งปีแรกของปีนี้จะมีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกที่ 2 และ 3 แต่ความน่าสนใจในระยะยาวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ประกอบกับผลงานของออริจิ้นที่ยังรักษาระดับการเติบโตทั้งยอดขายและรายได้ได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้โนมูระ ยังคงมั่นใจในการเดินหน้าร่วมทุนโครงการคอนโดมิเนียมกับเรา นับเฉพาะปีนี้ ก็มีการร่วมทุนกันเพิ่มเติมถึง 4 โครงการแล้ว” นายพีระพงศ์ กล่าว

ทั้งนี้ การร่วมทุนเพิ่มเติมดังกล่าว ส่งผลให้ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ และโนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ มีการร่วมทุนกันในกลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียมสะสมจากเดิม 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 34,172 ล้านบาท เพิ่มเป็น 11 โครงการ มูลค่าโครงการร่วมทุนกลุ่มคอนโดมิเนียมสะสม 35,572 ล้านบาท

โดยความร่วมมือก่อนหน้านี้จะเป็นความร่วมมือในแบรนด์คอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่อย่างพาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN) แบรนด์คอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ ได้แก่ แบรนด์ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge) และแบรนด์ใหม่อย่างโซโห แบงค็อก (SOHO Bangkok) ตลอดจนแบรนด์คอนโดมิเนียมสำหรับคน Gen Z อย่างดิ ออริจิ้น (The Origin) มาจนถึงคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ที่ออกแบบเพื่อคน Gen Y และสตาร์ทอัพ ภายใต้แบรนด์ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play) ส่งผลให้การร่วมทุนสะสมระหว่าง 2 บริษัทครอบคลุมคอนโดมิเนียมทุกเซ็กเมนต์มากยิ่งขึ้น

นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า ความร่วมมือเพิ่มเติมดังกล่าว สะท้อนถึงความไว้วางใจจากพันธมิตรที่ยังคงเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของบริษัท ทั้งในด้านการพัฒนาคุณภาพสินค้า การพัฒนาแบรนด์ ตลอดจนการปรับตัวต่อยอดจากการศึกษา Insight ของผู้บริโภค เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ขณะเดียวกัน ก็เป็นการเพิ่มโอกาสการเติมเต็มซึ่งกันและกันทั้งด้านเงินทุน การแลกเปลี่ยนโนว์ฮาวการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์วิถีชีวิตแห่งอนาคต และการเข้าถึงตลาดลูกค้าชาวต่างชาติ

อย่างไรก็ดี บริษัทยังคงพิจารณาการร่วมทุนกับพันธมิตรทั้งรายเดิม อาทิ โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ พันธมิตรต่างชาติรายแรกของบริษัท ซึ่งร่วมทุนกันมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่กลางปี 2560 และรายใหม่จากหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าไปได้อย่างแข็งแกร่งและก้าวกระโดดตามแผน ORIGIN NEXT LEVEL ในด้านการขยายธุรกิจ (Next Level of Business Expansion) โดยอาจพิจารณาร่วมทุนได้ทั้งในกลุ่มโครงการที่อยู่อาศัย โครงการที่สร้างรายได้ประจำ เช่น โรงแรม รวมถึงธุรกิจประเภทอื่นๆ ที่จะสร้างโอกาสใหม่ให้กับเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ในอนาคต

สำหรับโครงการออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ รามคำแหง ทริปเปิ้ล สเตชั่น (Origin Plug & Play Ramkhamhaeng Triple Station) คอนโดมิเนียมแนวคิดใหม่เพื่อคน Gen Y และกลุ่มสตาร์ทอัพ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 2-2-74.68 ไร่ ตัวอาคารเป็นคอนโดมิเนียม High Rise สูง 23 ชั้น ห้องพักอาศัยรวม 482 ยูนิต และร้านค้า 3 ยูนิต โดดเด่นด้วยฟังก์ชันห้องพัก 2 ชั้น Duo Space เพดานสูง 4.2 ม. ทั้งอาคาร แห่งแรกบนถนนรามคำแหง พื้นที่ใช้สอยกว้างขวางตั้งแต่ 22-33 ตร.ม. ปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้ตามไลฟ์สไตล์ มีความเป็นส่วนตัวเพียง 25 ห้องต่อชั้น พื้นที่ส่วนกลาง 2 ชั้น พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้ง Facilities สำหรับกลุ่มสตาร์ทอัพ สระว่ายน้ำบนวิวสูงและสวยที่สุดในย่าน บนทำเลแห่งอนาคต เดินทางได้อย่างสะดวกสบายใกล้รถไฟฟ้าสถานีอินเตอร์เชนจ์ ลำสาลี เชื่อมต่อรถไฟฟ้า 3 สาย ทั้งสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) และสายสีน้ำตาล (แคราย-ลำสาลี) ใกล้วงแหวนกาญจนา ทางด่วนศรีรัช และท่าเรือวัดศรีบุญเรือง ทั้งยังอยู่ในย่านไลฟ์สไตล์ ใกล้โรงพยาบาล โรงเรียน และมหาวิทยาลัยชั้นนำ ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 86 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 2/2564) เช่น  แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN) ดิ ออริจิ้น (The Origin) ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton) และ บริทาเนีย (BRITANIA) รวมมูลค่าโครงการกว่า 134,000 ล้านบาท

2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และยังมีวิสัยทัศน์ในการขยายประเภทธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ฯลฯ เพื่อให้เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร