TASCO ปัดเอี่ยวฟอกเงินเวเนฯ “เมย์แบงก์” ยังแนะ “ถือ” ชี้ไม่กระทบ
TASCO ปัดเอี่ยวปมฟอกเงินเวเนฯ หลังยุติความสัมพันธ์กับบริษัท PDVSA ตามข้อร้องขอของ US State Department ตั้งแต่พ.ย. 63 ฟากบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ ประเมินไม่มีผลทางกฎหมายต่อ TASCO เหตุกฎหมายแซงก์ชั่นจะจำกัดเฉพาะบริษัทและพลเมืองในสหรัฐฯ ยังแนะ "ถือ"
นายชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวปรากฏในสื่อเกี่ยวกับข้อกล่าวหาบริษัทมีส่วนพัวพันในคำฟ้องคดีอาญาของประเทศสหรัฐอเมริกาต่อนักธุรกิจชาวอเมริกันนั้น บริษัทขอชี้แจงว่าบริษัทไม่ได้ถูกกล่าวหาในฐานะจำเลยของการฟ้องร้องในครั้งนี้
โดยรายการที่เกี่ยวข้องกับบริษัท PDVSA ที่ปรากฏในข่าวเป็นหัวข้อที่ทางบริษัทและ US State Department ได้มีการติดต่อกันตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2563 ทั้งนี้บริษัทยืนยันว่าบริษัทได้ยุติความสัมพันธ์กับบริษัท PDVSA ตามข้อร้องขอของ US State Department โดยมีผลตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563
ทั้งนี้ เป็นไปตามรายละเอียดในจดหมายของบริษัทที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ฉบับที่ 026/2563 ลงวันที่ 11 กันยายน 2563 และฉบับที่ 031/2563 ลงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 เรื่อง การยกเลิกการซื้อน้ำมันดิบจากประเทศเวเนซุเอลา อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 TASCO แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ได้ยุติการจัดซื้อน้ำมันดิบจากประเทศเวเนซุเอลาภายในช่วงระยะเวลา Win down ตามข้อร้องขอจาก US State Department เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2563 ทาง TASCO แจ้งว่า โรงกลั่นของบริษัทในเมือง Kemaman ประเทศมาเลเซีย ถูกออกแบบมาเพื่อการกลั่นน้ำมันดิบชนิดหนักจากประเทศเวเนซุเอลาเป็นหลัก นับตั้งแต่โรงกลั่นเริ่มดำเนินการในปี 2550 โรงกลั่นของบริษัทมีการใช้น้ำมันดิบจากประเทศเวเนซุเอลาสำหรับการกลั่นคิดเป็น 90% โดยประมาณของน้ำมันดิบที่ใช้ทั้งหมด
ขณะที่ ในเดือนธันวาคม 2562 บริษัทได้รับการติดต่อจากสถานฑูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และบริษัทได้ตอบข้อสอบถามและให้รายละเอียดเกี่ยวกับการซื้อน้ำมันดิบจากประเทศเวเนซุเอลาต่อสถานฑูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ในเดือนมกราคม 2563 ต่อมาใช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทได้รับการติดต่อจาก US State Depaartment โดยร้องขอให้บริษัทหยุดซื้อน้ำมันดิบจากประเทศเวเนซุเอลาทันที บริษัทได้ทำการชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับรายละเอียดการซื้อน้ำมันดิบจากประเทศเวเนซุเอลาของบริษัทอย่างรอบด้านต่อ US State Department ท้ายสุด US State Department ได้ขอให้บริษัทหยุดซื้อน้ำมันดิบจากประเทศเวเนซุเอลา ให้มีผลตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป และแจ้งเตือนว่าบริษัทอาจถูกคว่ำบาตรจากประเทศสหรัฐอเมริกา ในกรณีที่บริษัทไม่ปฏิบัติตามข้อร้องขอ
ดังนั้น เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงจากการถูกคว่ำบาตรจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะกระทบต่อการดำเนินธุรกิจอย่างรุนแรง บริษัทได้ดำเนินการหยุดการซื้อน้ำมันดิบจากประเทศเวเนซุเอลาตามที่ US State Department ร้องขอ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องทำการปิดโรงกลั่นในเมือง Kemaman เป็นการชั่วคราว จนกว่าการคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกาต่อประเทศเวเนซุเอลานั้นถูกยกเลิก หรือบริษัทสามารถจัดหาน้ำมันดิบทดแทนน้ำมันดิบจากประเทศเวเนซุเอลาได้
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า กรณีที่มีรายงานข่าวออกมาว่า TASCO เอี่ยวฟอกเงินเวเนฯ พัวพันธุรกรรมอำพรางผู้ค้ายุทธภัณฑ์สหรัฐฯ ว่าคดีเกิดขึ้นในเดือน ก.พ. 2562-มี.ค. 2563 ต่อมา TASCO ได้แจ้งต่อตลาดว่าทาง US State Department ได้ขอให้ TASCO หยุดซื้อน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลา และวันที่ 23 พ.ย. 2563 โดย TASCO แจ้งว่าได้หยุดซื้อน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลาแล้ว สำหรับในแง่กฎหมายการแซงก์ชั่นจะจำกัดเฉพาะบริษัทและพลเมืองในสหรัฐฯ แต่เป็นการร้องขอความร่วมมือสำหรับบริษัทต่างประเทศ ดังนั้นจึงไม่มีผลทางกฎหมายต่อ TASCO คงแนะนำ “ถือ” สำหรับ TASCO
ทั้งนี้ สื่อต่างชาติรายงานว่า ในคำให้การที่มีการยื่นฟ้องต่อศาลแขวงสหรัฐฯ ในรัฐฟลอริดา ระบุว่า บริษัท Achabal Technologies ในรัฐฟลอริดา โดยมีนายฮอร์เก โนเบรกา นักธุรกิจสัญชาติอเมริกัน-เวเนซุเอลา เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ทำการขายโฟมที่เป็นฉนวนกันความร้อนในถังน้ำมันของเครื่องบินรบรัสเซียรุ่น Sukhoi SU-30 ให้แก่กองทัพเวเนซุเอลา ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้ทำการคว่ำบาตรรัฐบาลของนายนิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา รวมทั้งบริษัท PDVSA ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลเวเนซุเอลา ส่งผลให้บริษัทสหรัฐฯ และบริษัทอื่น ๆ ไม่สามารถทำธุรกิจกับ PDVSA หากไม่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ขณะที่การส่งออกยุทโธปกรณ์ทางการทหารก็ต้องได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่ง Achabal ไม่มีใบอนุญาตดังกล่าว
โดยนายโนเบรกาได้ถูกตำรวจสหรัฐฯ ควบคุมตัวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และมีกำหนดขึ้นศาลในวันที่ 18 ส.ค. ขณะที่ผลการสอบสวนของกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิของสหรัฐฯ ในเดือน เม.ย. 2562 พบว่า นายโนเบรกาได้ช่วยเหลือกองทัพเวเนซุเอลาในการซ่อมบำรุงฝูงบินรบรัสเซียรุ่น Sukhoi SU-30 โดยไม่ได้ยื่นเรื่องขออนุมัติจากทางการสหรัฐฯ
ทั้งนี้สื่อรายงานว่า ในความพยายามเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และปกปิดแหล่งที่มาของเงินที่เขาได้รับจากรัฐบาลเวเนซุเอลา นายโนเบรกาได้เปิดบัญชีสำหรับบริษัท Achabal ในโปรตุเกส ซึ่งมีการกล่าวหาว่าได้รับเงินหลายงวดจากรัฐบาลเวเนซุเอลาสำหรับค่าซ่อมบำรุงฝูงบินรบรัสเซียดังกล่าว บางครั้งเงินเหล่านี้มาจากบริษัท TASCO ที่เป็นผู้ซื้อน้ำมันดิบรายใหญ่ของ PDVSA โดยมีการระบุว่า PDVSA ได้แจ้งให้ TASCO โอนเงินเข้าไปยังบัญชีของ Achabal ในโปรตุเกส
ขณะที่ กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิของสหรัฐฯ ระบุว่า TASCO เป็นผู้ฟอกเงินที่ร่วมมือกับ PDVSA ในการเคลื่อนย้ายเงินทุนหลายร้อยล้านดอลลาร์ให้แก่รัฐบาลเวเนซุเอลา