TASCO บนความเสี่ยง.! กรณี “คดีฟอกเงินเวเนซุเอลา”
TASCO บนความเสี่ยง จากกณีคดีฟอกเงินเวซุเอลา หากถูกตัดสินว่ามีความผิดกับการสมรู้ร่วมคิดกับ Achabal เพื่อหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ นั่นจะส่งผลให้ TASCO มีแนวโน้มเผชิญความเสี่ยงอย่างหนัก รวมถึงอาจถูกขึ้นบัญชี บุคคล/บริษัทที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ (SDN) ทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีสื่อต่างประเทศ โดย“สำนักข่าวเอพี” มีการรายงานเรื่อง Achabal Technologies Inc. ของ นายฮอร์เฮ โนเบรกา นักธุรกิจชาวอเมริกัน ถูกกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฟ้องร้องและอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลรัฐบาลกลางในเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา ที่ดำเนินกิจการค้าขายโฟมหรือสารเคลือบถังน้ำมันชนิดหนึ่งให้รัฐบาลเวเนซูเอลา อันเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรเวเนซูเอล่าของรัฐบาลสหรัฐ
ตามรายงานข่าวดังกล่าว มีการระบุถึงเนื้อหาในคำฟ้องว่า บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO เป็น “บุคคลที่สาม” หรือ “ทำการร่วม” เพื่อให้ความช่วยเหลือหรือสมรู้ร่วมคิดกับ PDVSA (บริษัทค้าน้ำมันที่เป็นรัฐวิสาหกิจของเวเนซูเอล่า) ทำหน้าที่เคลื่อนย้ายเงินจำนวนกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แทนรัฐบาลสังคมนิยมเวเนซุเอลา เพื่อหลีกเลี่ยงมาตร การคว่ำบาตรของสหรัฐ ที่บังคับใช้ในปีค.ศ.2019
อย่างไรก็ตาม จึงกลายเป็นประเด็นที่ถูกตั้งคำถามว่า หาก Achabal Technologies Inc. ( Achabal) ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง..และพิสูจน์ได้ว่า TASCO มีส่วนร่วมกับการกระทำที่ถูกตัดสินว่า “ผิดจริง” ดังกล่าว ผลกระทบกับ TASCO จะเกิดขึ้นในแง่มุมใดบ้าง..!??
ทั้งนี้จากการตรวจสอบของสำนักงานที่ปรึกษากฏหมายที่เชี่ยวชาญกฎหมายต่างประเทศ พบว่า มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐต่อเวเนซูเอล่านั้น ทำให้บริษัทสัญชาติอเมริกัน รวมถึงผู้ที่ให้การสนับสนุนทั้งในรูปตัวบุคคลหรือบริษัท ที่ไม่ใช่สัญชาติอเมริกัน จะมีความผิดทางกฎหมายในการทำธุรกิจกับรัฐบาลเวเนซูเอล่า และรัฐวิสหกิจต่างๆในที่นี้รวมถึง PdVSA นอกเสียจากได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลังสหรัฐ
กรณีนี้หาก TASCO ถูกตรวจสอบโดยทางการสหรัฐ และภายหลังถูกตัดสินว่า มีความผิดจากการสนับสนุน ให้ความช่วยเหลือหรือสมรู้ร่วมคิดกับ Achabal หรือ PdVSA เพื่อหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐต่อการทำธุรกิจกับ PdVSA ดังกล่าว
นั่นจะส่งผลให้ TASCO มีแนวโน้มเผชิญผลลัพธ์ที่ตามมาอย่างหนัก รวมถึงอาจถูกขึ้นบัญชี specially designated national (SDN) หรือบุคคล/บริษัทที่ต้องจับตาเป็นพิเศษโดยสำนักงานควบคุมทรัพย์สินในต่างประเทศของสหรัฐ โดยผลจากการถูกขึ้นบัญชีใน SDN จะทำให้สินทรัพย์ที่มีอยู่ในสหรัฐจะถูกอายัดโดยอัตโนมัติและชาวอเมริกัน จะถูกห้ามไม่ให้ทำธุรกิจกับ TASCO ทันที
ทั้งนี้ จากผลลัพท์ดังกล่าว ทำให้ TASCO อาจต้องเผชิญกับความเสี่ยงหลายหลายมิติตามมาทันที
1) สร้างความเสียหายที่ไม่สามารถกู้คืนมาได้ต่อชื่อเสียงของ TASCO ที่มีในสหรัฐและทั่วโลก รวมถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อสถาบันการเงิน นักลงทุน ลูกค้า และหน่วยงานกำกับดูแลต่างๆ รวมถึงที่อยู่ในประเทศไทยด้วยเช่นกัน
2) TASCO ไม่สามารถใช้เงินสกุลดอลลาร์และระบบของธนาคารพาณิชย์(Banking System)ได้
3) สูญเสียโอกาสด้านธุรกิจ และการลงทุน เพราะพาร์ทเนอร์และคู่ค้า โดยเฉพาะบริษัทต่างชาติ จะไม่ร่วมทำธุรกิจกับบริษัทที่ถูกขึ้นบัญชี SDN โดยสหรัฐ
4) มีค่าปรับเป็นเงินจำนวนมากตามบทลงโทษและบทลงโทษทางอาญาที่รวมถึงการจำคุกด้วยเช่นกัน
5) การถูกตัดสินว่าละเมิดกฎหมายการคว่ำบาตรของสหรัฐ หรือถูกขึ้นบัญชี SDN ส่งผลให้สถาบันทางการเงิน เจ้า หนี้หรือคู่สัญญาอื่นๆของ TASCO จะมีการเรียกให้ชำระหนี้คืนทันที นอกจากนี้คู่ค้าทางธุรกิจอื่นๆ อาจยกเลิกสัญญาหรือเรียกค่าเสียหายหรือเรียกให้มีบทลงโทษอื่นๆได้..
สำหรับมาตรการคว่ำบาตรทั้งกับเวเนซูเอล่าและประเทศอื่นๆ บริษัทหรือบุคคลที่ไม่มีสัญชาติอเมริกันอาจถูกบท ลงโทษทางแพ่งหรืออาญาภายใต้การคว่ำบาตรระดับปฐมภูมิ(primary sanctions)หากการกระทำที่ละเมิดนั้นมีบุคคลสัญชาติอเมริกันเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น การกระทำที่มีการเชื่อมโยงกับสหรัฐ
ส่วนกรณี “การร่วมกันกับบุคคลสัญชาติอเมริกัน เพื่อหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ” อาจส่งผลให้ถูกการคว่ำบาตรขั้นปฐมภูมิ จากสหรัฐต่อบุคคลที่ไม่ใช่สัญชาติอเมริกันทั้งทางแพ่งและอาญา บนเงื่อนไข(ทฤษฎี)การ“ทำให้”บุคคลสัญชาติอเมริกันกระทำการผิดกฎหมาย หรือการส่งออกบริการที่ต้องห้ามจากสหรัฐ
โดยบทลงโทษทางแพ่ง มักจะถูกปรับสูงสุด 300,000 ตอลล่าร์สหรัฐ ต่อหนึ่งการกระทำผิดหรือสองเท่าของธุรกิจซื้อขาย หรืออย่างใดอย่างหนึ่งที่มีมูลค่ามากกว่า ส่วนบทลงโทษทางอาญาต่อบุคคล อาจถูกสั่งจำคุกสูงสุด 20 ปี และปรับเป็นเงินสูงสุดถึง 1,000,000 ดอลล่าร์สหรัฐ
ขณะที่“บุคคลที่ไม่ใช่สัญชาติอเมริกัน”สามารถถูกคว่ำบาตรขั้นทุติยภูมิ(secondary sanctions) ได้ด้วยเช่นกัน กรณีการกระทำไม่ได้เชื่อมโยงกับสหรัฐ แต่เข้าข่ายการคว่ำบาตรขั้นทุติยภูมิ เช่น การดำเนินการเกี่ยวกับก๊าซหรือน้ำมันของเวเนซูเอล่า หรือให้ความช่วยเหลือด้านสินค้า หรือบริการต่อเวเนซูเอล่า ซึ่งอยู่ในบัญชี SDN
การบังคับใช้อำนาจเรื่องนี้ อยู่ในรูปแบบที่ค่อนข้างกว้าง แต่จะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐาน ที่มีดุลยพินิจอย่างรอบคอบ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ยากจะคาดการณ์ได้ว่าในเหตุการณ์ใดที่ทางการสหรัฐ จะเลือกใช้มาตรการคว่ำบาตรนี้ บทลงโทษของการถูกคว่ำบาตรขั้นทุติยภูมินั้น มักจะเป็นการตัดออกจากการค้าขาย และธุรกรรมกับสหรัฐ โดยทั่วไปแล้วมักจะจบลงที่การถูกขึ้นบัญชี SDN
เมื่อสหรัฐ เข้ามามีอำนาจในการตัดสินคดีจากการร่วมกันหลบเลี่ยงกฎหมายกับบุคคลสัญชาติสหรัฐ ในมุมมองของที่ปรึกษาทางกฎหมาย คิดว่า การบังคับใช้มาตรการน่าจะตกมาที่การคว่ำบาตรระดับปฐมภูมิ มากกว่าการคว่ำบาตรขั้นทุติยภูมิ อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาผลลัพธ์ได้