“คกก.โรคติดต่อแห่งชาติ” เห็นชอบ 4 แนวทางคุมโควิด เดินหน้าเปิดประเทศปลอดภัย
“คกก.โรคติดต่อแห่งชาติ” เห็นชอบ 4 ประเด็นคุมโควิด เดินหน้าเปิดประเทศปลอดภัย โดยการใช้การควบคุมโรคแนวใหม่ หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อเริ่มลดลง เล็งทบทวนมาตรการใหม่อีกครั้งหลังครบกำหนดล็อกดาวน์ 31 ส.ค.64
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (23 ส.ค.) กระทรวงสาธารณสุข มีการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 8/2564 โดยมี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง ร่วมการประชุมและประชุมผ่านระบบออนไลน์
โดย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ของไทยในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มดีขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อคงตัว เป็นผลจากมาตรการต่างๆ เช่น การล็อกดาวน์ในพื้นที่สีแดงเข้ม การตรวจค้นหาเชิงรุกด้วยชุดตรวจ ATK และนำเข้าระบบการรักษาที่บ้าน / ชุมชน การเร่งฉีดวัคซีนในกลุ่มเสี่ยงให้ครอบคลุม ตั้งแต่เดือนนี้มีวัคซีนเข้ามาเพิ่มทั้งไฟเซอร์ แอสตร้าเซนเนก้า และซิโนแวค ส่งไปทั่วประเทศ ขณะนี้ ฉีดวัคซีนไปแล้ว 27 ล้านโดส ผู้ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็มแล้ว 28%
โดยวันนี้ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ได้หารือ 4 ประเด็นสำคัญในการควบคุมโรคโควิด-19
1.มาตรการเปิดประเทศอย่างปลอดภัย ภายใต้การควบคุมโรคแนวใหม่ เตรียมรองรับระยะเปลี่ยนผ่านจากช่วงที่เป็นภาวะวิกฤตไปสู่การเปิดประเทศเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยการเปิดประเทศจะทำได้ต่อเมื่อดำเนินมาตรการครบถ้วน ได้แก่ การฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากร พัฒนาการหาจัดวัคซีนใหม่ๆ แบบครบวงจร ส่งทีม CCRT เคลื่อนที่เร็วตรวจค้นหาเชิงรุกด้วยชุด ATK ในพื้นที่ระบาด ฉีดวัคซีนเชิงรุกให้กลุ่มเสี่ยง ประชาชนต้องเคร่งครัดมาตรการป้องกันตัวแบบครอบจักรวาล ให้ตระหนักเสมอว่า ทุกคนมีโอกาสติดเชื้อและแพร่เชื้อ
2.เห็นชอบหลักการมาตรการป้องกันและควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ (Bubble and seal) สำหรับสถานประกอบกิจการที่พบผู้ติดเชื้อเกิน 10% แยกไปรักษาที่รพ.สนาม และเฝ้าระวังคนที่เหลือให้สามารถทำงานต่อไปได้ เมื่อครบ 28 วัน ตรวจภูมิคุ้มกัน ผลดีคือ ไม่ต้องปิดโรงงาน
เห็นชอบร่างกฎกระทรวง เรื่อง การแจ้งกำหนดวัน เวลา และสถานที่ที่พาหนะจะเข้ามาถึงด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ พ.ศ. …. และร่างกฎกระทรวง เรื่อง การยื่นเอกสารต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ พ.ศ. ….เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติสำหรับพาหนะจากต่างประเทศที่จะเข้ามาประเทศไทยทั้งในด่านบก เรือ และอากาศ
4.สนับสนุนให้มีผู้แทนของสมัชชาสุขภาพจังหวัดร่วมประชุมในคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ตามมติคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2564 เพื่อให้มีตัวแทนประชาชนในพื้นที่ร่วมรับรู้และร่วมดำเนินมาตรการควบคุมโรคภายในจังหวัดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ยังได้รับทราบมติคณะกรรมการด้านวิชาการ ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ที่เห็นชอบให้ผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีน สปุตนิก วี (Sputnik V) เข้าร่วมโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ได้
ทั้งนี้มาตรการเปิดประเทศด้วยการควบคุมโรคอย่างปลอดภัยแนวใหม่ จะพิจารณาเป็นขั้นตอนและประเมินเป็นระยะ ว่าหลังครบกำหนดล็อกดาวน์วันที่ 31 ส.ค.64 จะมีการพิจารณาทบทวนมาตรการ เพื่อกำหนดว่ามาตรการให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปลอดภัย ตั้งแต่เดือน ก.ย.ไปจนถึงปลายปี 2564 ต่อเนื่องไปถึงปี 2565 ซึ่งหากสามารถดำเนินการได้ตามมาตรการควบคุมโรค ที่เสนอก็จะสามารถผ่อนคลายมาตรการ และฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศได้
ขณะเดียวกันยังต้องพิจารณาแนวโน้มการตรวจค้นหา เปอร์เซนต์การตรวจ อัตราการตรวจ การกระจายของโรค อัตราการป่วยหนัก อัตราการเสียชีวิต และจำนวนผู้ติดเชื้อที่ระบบสาธารณสุขที่รองรับได้ในแต่ละพื้นที่ จากความร่วมมือของประชาชนและทุกภาคส่วนทำให้ขณะนี้สถานการณ์ระบาดมาถึงจุดพีคแล้ว คาดว่าแนวโน้มการติดเชื้อจะลดลง แต่ช่วงนี้ยังเป็นจุดเปราะบาง จึงยังต้องรอดูอีก 3-4 วัน ก่อนพิจารณาคลายมาตรการ ซึ่งจะประเมินสถานการณ์ในอีก 2-3 สัปดาห์