SIRI จ่อเปิด 4 โครงการใหม่ 2.70 พันลบ.ชู THE MUVE กระแสแรง หนุนยอดขายทะลุเป้า 1.1 หมื่นล.
SIRI จ่อเปิด 4 โครงการใหม่ 2.70 พันลบ. ชูแบรนด์ THE MUVE กระแสแรง เจาะกลุ่มคนอยากมีบ้านทุกกลุ่มและรองรับเซกเมนต์ในระดับราคาที่เข้าถึงง่าย หวังหนุนยอดขายทะลุเป้า 1.1 หมื่นลบ.
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนเปิดตัวคอนโดมิเนียมในปีนี้รวม 8 โครงการ มูลค่ารวม 6,100 ล้านบาท โดยในไตรมาส 4 จะเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่จำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวม 2,700 ล้านบาท
โดยล่าสุดบริษัทมียอดขายคอนโดมิเนียมแล้ว 7,100 ล้านบาท คิดเป็น 65% จากเป้าทั้งปีที่ 11,000 ล้านบาท ความสำเร็จของยอดขายคอนโดมิเนียมในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาประสบความสำเร็จครอบคลุมทุกเซกเมนต์ อาทิ ยอดขายจาก คุณ บาย ยู อินสไปร์ บาย สตาร์ค, โอกะ เฮาส์ และเดอะ เบส สะพานใหม่ เป็นต้น นอกจากนี้บริษัทฯยังปิดการขายโครงการ ดีคอนโด ธาร จรัญฯ ในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาอีกด้วย
สำหรับความร้อนแรงของซีรีย์คอนโดมิเนียมแบรนด์ THE MUVE (เดอะมูฟ) แบรนด์คอนโดน้องใหม่ หนึ่งในโปรดักส์ไฮไลท์ในปีนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ SIRI ในการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการมีบ้านของคนทุกกลุ่มและรองรับเซกเมนต์ในระดับราคาที่เข้าถึงง่าย ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่โครงการแรก “เดอะ มูฟ เกษตร” ส่งผลงานต่อมาถึง “เดอะ มูฟ ราม 22” กวาดยอดขายทั้งในรอบ VIP และ Online Booking ในไทย รวมถึงกลุ่มลูกค้าต่างชาติจากการเปิดขายในรอบ VIP ที่ฮ่องกงที่ลูกค้าให้การตอบรับอย่างล้นหลาม ส่งผลให้ Sold Out รวดทุกยูนิตที่เปิดขายในทั้ง 2 โครงการสะท้อนความเป็นเบอร์หนึ่งเจ้าตลาดคอนโดมิเนียมของแสนสิริอย่างแท้จริง และคาดว่าจะส่งต่อความสำเร็จไปสู่ “เดอะ มูฟ บางนา” คอนโดน้องใหม่ซีรีย์ฮอตแห่งปีโครงการที่ 3 จากแสนสิริ ราคาเริ่มต้น 1.29 ล้านบาท ที่เตรียมพรีเซลล์เป็นโครงการต่อไป
อีกทั้งพร้อมกันนี้ยังมีแผนเปิดตัวอีก 2 โครงการใหม่ “เดอะ มูฟ ประดิพัทธิ์” และ “เดอะ มูฟ บางแค” ราคาจับต้องได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ และยังเตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์ “ดีคอนโด” ต่อยอดความสำเร็จจาก ดีคอนโด ธาร จรัญฯ ที่ปิดการขายในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดีความสำเร็จจากการเป็นคอนโดมิเนียมราคาเข้าถึงง่าย คอนโดสไตล์รีสอร์ทบนพื้นที่สีเขียวในจรัญฯ ที่ลงตัวสำหรับการพักผ่อนและทำเลสะดวกต่อการเดินทางรับศักยภาพทำเลย่านฝั่งธนเติบโต ทั้งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อนที่เปิดให้บริการแล้ว รวมทั้งการขยายถนนตัดใหม่และการขยายตัวของสถานที่สำคัญและสถานศึกษา ที่ยังมีดีมานต์ความต้องการคอนโดมิเนียมต่อเนื่องในย่านนั้น นอกจากนี้อัตราการปล่อยเช่าในทำเลยังมีผลตอบแทนที่สูงด้วยเช่นกัน โดยมีอัตราการปล่อยเช่าอยู่ที่ 10,000 – 25,000 บาทต่อเดือน คิดเป็นอัตราผลตอบแทนการปล่อยเช่า (Yield) ประมาณ 5.20%
“แสนสิริยังเตรียมเปิดตัวแบรนด์คอนโดมิเนียมใหม่ เป็นอีกหนึ่งในโปรดักส์ไฮไลท์ ที่ตอบรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าให้กว้างขึ้นและตอกย้ำความมุ่งมั่นของแสนสิริในการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการมีบ้านของคนทุกกลุ่ม โดยจะเป็นแบรนด์คอนโดมิเนียมราคาต่ำล้านเข้าถึงง่าย ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากการเป็นแบรนด์คอนโดมิเนียมในระดับราคาเข้าถึงง่ายซึ่งยังมีดีมานด์ความต้องการในตลาดที่อยู่อาศัย โดยแสนสิริยังวางแผนต่อยอดคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่นี้ ต่อเนื่องในปี 2565 อีกด้วย” นายอุทัย กล่าว
นอกจากนี้ SIRI ยังมีผลงานการโอนคอนโดมิเนียมที่โดดเด่น โดยสร้างยอดโอนล่าสุดไปแล้ว 8,300 ล้านบาท คิดเป็น 64% จากเป้ายอดโอนคอนโดมิเนียม 13,000 ล้านบาท ทั้งการเดินหน้าโอนส่งมอบโครงการ XT อย่างต่อเนื่อง ทั้ง XT เอกมัย ที่มียอดขายแล้วกว่า 80% และยอดโอนเกือบ 70% และ XT ห้วยขวางที่เริ่มโอนในปีนี้ รวมถึงประสบความสำเร็จในยอดโอนครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ทั้ง คุณ บาย ยู อินสไปร์ บาย สตาร์ค, โอกะ เฮาส์ และเดอะ เบส สะพานใหม่ เป็นต้น
ขณะที่ล่าสุดบริษัทฯยังเตรียมโอนคอนโดมิเนียม เอดจ์ เซ็นทรัล พัทยา คอนโดไลฟ์สไตล์สุดพีคใจกลางพัทยา และ ดีคอนโด ไฮด์อเวย์ รังสิตในต้นเดือน ก.ย.นี้
สำหรับคอนโดมิเนียม “EDGE Central Pattaya” (เอดจ์ เซ็นทรัล พัทยา) คอนโดไลฟ์สไตล์สุดพีคใจกลางพัทยา จำนวน 603 ยูนิต มูลค่าโครงการ 3,200 ล้านบาท โดยโครงการมียอดขายแล้ว 70% พร้อมเข้าอยู่ในเดือน ก.ย.เริ่มโอนวันที่ 4 – 5 ก.ย.นี้ ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท พร้อมซื้อ จอง ดาวน์ โอน จ่ายค่าส่วนกลาง ผ่านคริปโทได้ทุกโครงการ เปิดรับทุก Wallet คอนเฟิร์มเรตได้ใน 5 นาที
ส่วนโครงการ “dCondo Hideaway” (ดีคอนโด ไฮด์อเวย์) คอนโดเพื่อชีวิตอิสระได้ทุกวัน “Fun day, Everyday” คอนโดมิเนียมโลว์ไลส์ สูง 8 ชั้น จำนวน 3 อาคาร 800 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ขนาดพื้นที่โครงการ 10 ไร่ แบ่งออกเป็น พื้นที่ส่วนกลาง 8 ไร่ พร้อมพื้นที่สีเขียว 2.50 ไร่ บนทำเลศักยภาพ โซนรังสิต ใกล้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รองรับกลุ่มนักศึกษา คนทำงาน และนักลงทุน ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท
อนึ่งอัตราค่าเช่าในทำเลนี้ยังมีผลตอบแทนที่สูงด้วยเช่นกัน โดยมีอัตราการปล่อยเช่าที่ 8,500 – 10,000 บาทต่อเดือน คิดเป็นอัตราผลตอบแทนการปล่อยเช่า (Yield) ประมาณ 5.50% ซึ่งปัจจุบันโครงการมียอดขายแล้ว 60% พร้อมโอนในเดือน ก.ย.นี้
อย่างไรก็ตามผลงานยอดขายและยอดโอนคอนโดมิเนียมที่ดี มาจากความเชื่อมั่นของลูกค้าในการเป็น “แบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน” จากการมุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าทั้งในด้านคุณภาพ ดีไซน์ รวมถึงการบริการ หรือ Sansiri Service ในการมอบบริการที่ดีที่สุดทั้งก่อนและหลังการขาย รวมไปถึง LIV-24 ที่ดูแลความปลอดภัยส่งตรงจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมงมาตรฐานแสนสิริ พร้อมเจ้าหน้าที่พร้อมดูแลทุกจุดในโครงการ พร้อมพริวิเล็จมากมายจากแสนสิริ แฟมิลี่