SONIC จ่อเปิดพื้นที่วาง “ตู้คอนเทนเนอร์” 33 ไร่ บนโครงการ “อีอีซี-แหลมฉบังเฟส3”
SONIC เตรียมขยายพื้นที่ให้บริการรับฝากตู้คอนเทนเนอร์ เพิ่มขึ้นอีก 33 ไร่ รองรับลูกค้าเขตอีอีซีขยายตัว - โครงการแหลมฉบังเฟส 3 คาดก่อสร้างเสร็จกลางปีหน้า พร้อมประมาณการว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายใน 5 - 6 ปี
ดร.สันติสุข โฆษิอาภานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) หรือ SONIC เปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียมที่จะขยายพื้นที่ให้บริการรับฝากตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มขึ้นอีก 33 ไร่ เพื่อรองรับการขยายตัวของลูกค้าในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี และโครงการแหลมฉบังเฟส3 โดยคาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จประมาณกลางปี 2565 ซึ่งหลังเปิดให้บริการบริษัทฯจะทยอยรับรู้รายได้ทันที และประมาณการว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายใน 5- 6 ปี
ทั้งนี้คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯขยายพื้นที่การให้บริการโลจิสติกส์ โดยการลงทุนซื้อที่ดินขนาด 33 ไร่ ในเขตอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรีมูลค่ารวมไม่เกิน 117 ล้านบาท ค่าพัฒนาที่ดิน 77.40 ล้านบาท รวมงบประมาณทั้งสิ้น 194.40 ล้านบาท
สำหรับปัจจุบันบริษัทฯมีพื้นที่ให้บริการรับฝากตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 12 ไร่ คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีลูกค้ามาใช้บริการเต็มพื้นที่ เนื่องจากแนวโน้มธุรกิจโลจิสติกส์มีการอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตพื้นที่อีอีซีนอกจากนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างเตรียมที่จะประมูลงานกับสายการเดินเรือยักษ์ใหญ่ 2 – 3 ราย เพื่อให้มาใช้บริการเช่าพื้นที่ฝากวางตู้คอนเทนเนอร์
“จุดแข็งของการให้บริการเช่าพื้นที่วางตู้คอนเทนเนอร์ของ SONIC คือเราอยู่ในพื้นที่เขตอีอีซี แหลมฉบัง ซึ่งธุรกิจโลจิสติกส์ในพื้นที่ดังกล่าวจะมีการขยายตัวเติบโตสูงและยังเป็นการต่อยอดให้กับธุรกิจโลจิสติกส์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทให้สามารถบริการลูกค้าได้ครบวงจรมากขึ้น ”ดร.สันติสุข กล่าว
ส่วนภาพรวมการดำเนินธุรกิจของ SONICในช่วงครึ่งปีหลังยังเติบโตต่อเนื่อง แม้จะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้น แต่การให้บริการด้านขนส่งของบริษัทไม่ได้มีปัญหา เนื่องจากบริษัทฯได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการให้บริการขนส่งสินค้าของลูกค้าตั้งแต่ช่วงสถานการณ์โควิด 19 ในระลอกแรกจนถึงปัจจุบัน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการขนส่งสินค้าของลูกค้า จึงทำให้บริษัทฯได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้าเดิมและจากกลุ่มลูกค้ารายใหม่ที่มีเพิ่มมากขึ้น โดยกลุ่มลูกค้าหลักยังมาจากการให้บริการขนส่งทางทะเลที่มีสัดส่วนรายได้ถึง 78% การบริการขนส่งทางบก 17%การบริการทางอากาศ 4.50% และสัดส่วนรายได้อื่นๆ อีก 0.50%