สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 25 ส.ค. 2564

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 25 ส.ค. 2564


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ยังคงปิดทำนิวไฮ โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มผู้ผลิตชิป ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,405.50 จุด เพิ่มขึ้น 39.24 จุด หรือ +0.11% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,496.19 จุด เพิ่มขึ้น 9.96 จุด หรือ +0.22% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,041.86 จุด เพิ่มขึ้น 22.06 จุด หรือ +0.15%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเดินทางที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่ตลาดทั่วโลกปรับตัวในช่วงแคบๆ ก่อนการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิ่งในวันที่ 26 – 28 ส.ค.นี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 471.84 จุด เพิ่มขึ้น 0.05 จุด หรือ +0.01%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,676.48 จุด เพิ่มขึ้น 12.17 จุด หรือ +0.18%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,860.66 จุด ลดลง 45.19 จุด หรือ -0.28% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,150.12 จุด เพิ่มขึ้น 24.34 จุด หรือ +0.34%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเดินทาง ขณะที่นักลงทุนยังคงระมัดระวังในการซื้อขายหุ้น หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นทั่วโลก และการขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอลง

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,150.12 จุด เพิ่มขึ้น 24.34 จุด หรือ +0.34%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) ขานรับตัวเลขชสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 82 เซนต์ หรือ 1.20% ปิดที่ 68.36 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.2564

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์ หรือ 1.70% ปิดที่ 72.25 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค.2564

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวัน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินของเฟด

ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 17.50 ดอลลาร์ หรือ 0.97% ปิดที่ 1,791 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 11.90 เซนต์ หรือ 0.50% ปิดที่ 23.775 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 16.60 ดอลลาร์ หรือ 1.64% ปิดที่ 993.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 11.80 ดอลลาร์ หรือ 0.50% ปิดที่ 2,430.70 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและปอนด์เทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) โดยนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนการที่ประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง จะเปิดฉากขึ้นในวันนี้

ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.07% แตะที่ 92.8255 เมื่อคืนนี้

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1771 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1754 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3761 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3730 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7279 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7256 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.97 เยน จากระดับ 109.68 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์ ที่ระดับ 0.9135 ฟรังก์ จากระดับ 0.9126 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2598 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2594 ดอลลาร์แคนาดา

Back to top button