SYNEX ส่งซิกครึ่งปีหลังแจ่ม ดีมานด์ “ไอที” ทะลัก รับกระแส WFH
SYNEX แย้มดีมานด์ “ไอที” ทะลัก หนุนยอดขายครึ่งปีหลังพุ่งรับไฮซีซั่น พร้อมกางแผนต่อยอดธุรกิจ ผ่าน “ซินเน็ค อินคิวท์เบชั่น” หนุนแผนโตกระโดด
นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX ในฐานะผู้นำด้าน IT Ecosystem เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจปี 2564 ตั้งเป้าเติบโตโดยเน้นกำไรเป็นสำคัญ จากภาพรวมตลาดไอทีคึกคัก แม้ว่าซัพพลายสินค้าไอทีบางกลุ่มขาดตลาด แต่มีความต้องการของผู้บริโภคในระดับสูง
โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประชาชนปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต มีการ Work from Home และประชุมผ่านออนไลน์มากขึ้น ทำให้เห็นความต้องการสินค้าไอทีและเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน สนับสนุนให้ซินเน็คฯ มีกำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีแรก 396 ล้านบาท เติบโตถึง 33% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวม 17,018 ล้านบาท เติบโต 6%
ทั้งนี้ ซินเน็คฯเติบโตทำนิวไฮในแง่ของกำไร สะท้อนกลยุทธ์ในการบริหารผลิตภัณฑ์ และการเข้าสู่ยุคของเทคโนโลยี ที่มีดีมานด์จากผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก แม้สถานการณ์โควิด ในครึ่งปีแรกกลุ่มสินค้าไอทียังคงเติบโตทั้งยอดขายและกำไรขั้นต้น โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ และแอคเซสเซอรี่
รวมทั้ง กลุ่มเกมมิ่งมีความโดดเด่น ตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดอุปกรณ์เกมมิ่งในเมืองไทย ด้วยการเติบโตถึง 50% และมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 15% ของรายได้รวม ประกอบกับ สินค้าไอทีกลุ่มคอมเมอร์เชียล กำไรเติบโตจากปีก่อนค่อนข้างดีเช่นกัน โดยยังมีงานโปรเจ็กต์ที่ซินเน็คฯ รอรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง รวมทั้ง แผนการลงทุนของภาครัฐบาลและเอกชนต่อเนื่อง จะผลักดันให้สินค้ากลุ่มนี้ให้เติบโตขึ้นอีก สำหรับกลุ่มสินค้าโทรศัพท์มือถือ ภาพรวมแบรนด์แอปเปิลเติบโตค่อนข้างมาก รวมทั้ง แบรนด์เทคโนโมบาย ได้รับการตอบรับที่ดี รับอานิสงส์โทรศัพท์มือถือเป็นที่ต้องการในการทำธุรกรรมและกิจกรรมต่างๆ เพื่อเข้าสู่สังคมยุคดิจิทัล แม้สินค้าบางแบรนด์ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค แต่ในหลายรายการซัพพลายสินค้าเริ่มกลับมาดีขึ้น
อย่างไรก็ดี ซินเน็คฯ มองภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังเติบโตรับความก้าวหน้าของเทคโนโลยี เพื่อรองรับ 5G Wifi 6 และ Cloud Service รวมทั้ง ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีเป็นช่วงทยอยเปิดตัวสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด โดยเฉพาะสินค้ากลุ่ม 5G กระตุ้นความต้องการผู้บริโภค และเป็นกลุ่มที่มีราคาสูง ทั้งนี้ หากสถานการณ์โควิด-19 ผ่อนคลายลง จะยิ่งกระตุ้นให้ภาพรวมตลาดคึกคักกว่าครึ่งปีแรกได้ โดยซินเน็คฯ ยังมุ่งมั่นรักษาความสามารถในการทำกำไรจากช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา มีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่แตะระดับ 4.8% โตกว่าเป้าหมายอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้ที่วางไว้จะโตกว่าปีก่อน
พร้อมทั้งวางกลยุทธ์การเพิ่มพอร์ตสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง จากปัจจุบันบริษัทฯ มีแบรนด์ที่บริหารมากกว่า 60 แบรนด์ชั้นนำ อาทิ สินค้ากลุ่มเกมมิ่ง กลุ่มสุขภาพ หรือ Smart Health ที่คาดจะเห็นการจับมือกับพันธมิตรแบรนด์ใหม่เข้ามาเสริมพอร์ตมากขึ้น รวมทั้ง สินค้ากลุ่ม IoT อุปกรณ์ไอทีและเครื่องใช้ต่างๆ สามารถเชื่อมโยงหรือส่งข้อมูลถึงกันได้ด้วยอินเตอร์เน็ต ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค และกลุ่มซีเคียวริตี้ ตอบโจทย์ด้านความปลอดภัยให้องค์กรธุรกิจต่างๆ ที่จะลงทุนและขยายระบบไอที เพื่อรับมือวิถีองค์กรนิวนอร์มอล
นอกจากนี้ ซินเน็คฯ มีแผนเปิดตัว House Brand ในสินค้า 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ กลุ่มโทรศัพท์มือถือและแอคเซสเซอรี่ กลุ่มอุปกรณ์ต่อพ่วงสำหรับกลุ่มเกมมิ่ง และอุปกรณ์ต่อพ่วงสำหรับคอมพิวเตอร์ คาดจะเริ่มเห็นความชัดเจนในช่วงต่อจากนี้
อย่างไรก็ดี ซินเน็คฯ เดินหน้ายกระดับการบริการ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในบริการหลังการขาย และการทำการตลาดแบบ Omni Channel นอกจากนี้ ยังดูแล Official Store ให้หลากหลายแบรนด์บนแพลตฟอร์มออนไลน์ และขยายการให้บริการ Fulfilment (บริการคลังสินค้าพร้อมจัดส่ง) เพื่อสนับสนุนลูกค้าที่ต้องการปรับธุรกิจไปสู่ออนไลน์อีกด้วย
สำหรับ บริษัท ซินเน็ค อินคิวท์เบชั่น จำกัด (Synnex Incubation) บริษัทย่อยที่จัดตั้งขึ้นเพื่อลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยีร่วมกับพันธมิตร เพื่อสนับสนุนให้ซินเน็คฯ มีการเติบโตในธุรกิจที่แตกต่างไปจากธุรกิจหลักของบริษัทฯ ปัจจุบัน ได้เปิดเผยโมเดลธุรกิจแรกที่ได้เข้าไปร่วมลงทุนกับ บริษัท สวอป มาร์ท จำกัด (SWOPMART) ประกอบกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อรุกตลาดไอทีมือสองร่วมกัน ในรูปแบบ market place คาดว่าจะเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ในสัดส่วนการถือหุ้น ซินเน็ค อินคิวท์เบชั่น 60% และพันธมิตร 40% และเตรียมเผยแผนต่อยอดธุรกิจร่วมกับพันธมิตรรายอื่น คาดจะเป็นอีกปัจจัยสนับสนุนให้ซินเน็คฯ มีโอกาสเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต
ทั้งนี้ เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก 2564 เป็นจำนวน 0.18 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 3 กันยายน 2564 นี้