FTE ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 15% ตุนแบ็กล็อก 450 ลบ. มั่นใจรักษามาร์เก็ตแชร์เบอร์ 1
FTE ตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะ 1,047 ลบ. เติบโต 15% จากปีก่อน ตุนแบ็กล็อก 450 ลบ. ลุ้นรับงานเพิ่มกว่า 100 ลบ. กางแผนออกสินค้าใหม่ครอบคลุมความต้องการลูกค้า มั่นใจรักษามาร์เก็ตแชร์เบอร์ 1 ตลาดระบบและอุปกรณ์ดับเพลิง
นายปฤณ บุรีคำ ผู้จัดการฝ่ายขายระบบดับเพลิง บริษัท ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ FTE เปิดเผยข้อมูลภาพรวมของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 26 ส.ค.2564 ว่า ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 450 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดในปี 2564 จะรับรู้ราว 370 ล้านบาท ส่วนที่เหลือทยอยรับรู้ในปี 2565
ทั้งนี้ในช่วงไตรมาส 3/64 จะมีโครงการที่คาดว่าจะส่งมอบงานและสามารถรับรู้รายได้จำนวน 20-30 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 150 ล้านบาท อีกทั้งมีงานอยู่ระหว่างยื่นประมูล 10 งาน มูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งคาดว่ามีโอกาสรับงานในสัดส่วน 50% หรือมูลค่า 100 ล้านบาท จึงคาดว่ารายได้ในปี 2564 จะอยู่ที่ 1,047 ล้านบาท เติบโต 15% จากปีก่อน ตามเป้าหมายที่วางไว้
ทั้งนี้คาดว่าในปี 2564 บริษัทจะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 21-22% จากเดิมอยู่ที่ระดับ 18% และยังคงรักษาอันดับ 1 ในตลาดระบบและอุปกรณ์ดับเพลิง
สำหรับช่วงครึ่งปีหลังบริษัทฯ ยังมีแผนเพิ่มสินค้าใหม่ให้มีความหลากหลาย โดยปัจจุบันมีสินค้าทั้งสิ้น 9,500 รายการ ครอบคลุมความต้องการและเป็นทางเลือกของลูกค้าอย่างครอบคลุม
ขณะเดียวกันภาพรวมภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทยยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อการประมูลโครงการใหม่และการเข้าติดตั้งระบบงานต้องชะลอออกไปบางโครงการ แต่อย่างไรก็ตามโครงการในต่างจังหวัดยังคงดำเนินการได้ตามปกติ และหากมีการกระจายการฉีดวัคซีนดีขึ้นก็จะทำให้กลับมาดำเนินงานได้มากขึ้น
ด้านนายอัครชัย นพเสนีย์ ผู้จัดการฝ่ายขายอุปกรณ์ดับเพลิง FTE กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ยังคงเป้ารายได้ปีนี้ประมาณ 1,047 ล้านบาท เติบโต 15% จากปีก่อน โดยคาดว่าจะเป็นการรับรู้รายได้จาก (1) EGAT ที่ 170 ล้านบาท (2) Government Agency ที่ 151 ล้านบาท (3) General Industry ที่ 300 ล้านบาท (4) Oil & Gas and Petrochemical ที่ 68 ล้านบาท (5) Commercial & Residential Building ที่ 220 ล้านบาท (6) Data Center & Telco ที่ 73 ล้านบาท (7) Hospitality (HoReCa) ที่ 65 ล้านบาท
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินงานบริษัทฯ มุ่งเน้นรักษายอดขายจากลูกค้ารายสำคัญด้วยการจัดการโครงสร้างราคาให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ อีกทั้งมองหาโอกาสการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ ทั้งการออกแบบและติดตั้งระบบดับเพลิงครบวงจร และกลุ่มสินค้าเครื่องสำรองไฟฟ้า (UPS) รวมถึงจัดทีมงานเพื่อดูแลหน่วยงานของรัฐโดยเฉพาะ อาทิ กระทรวงสาธารณสุข และ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
นอกจากนี้มีการปรับตัวด้านงานโครงการ ด้วยการจัดจ้างผู้รับเหมาและซื้อวัตถุดิบโดยตรงเอง โดยไม่ผ่านตัวกลาง ซึ่งน่าจะเพิ่มมาร์จิ้นให้กับงานโครงการได้อีก 3 – 5% ในแต่ละโครงการ